Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังทิศใต้ เริ่มเขียนเล่าเรื่องในกัณฑ์ที่ 8 วนวสนกัณฑ์ บริเวณกลางฝาผนังบริเวณเหนือหน้าต่างช่องที่ 3 ในส่วนล่าง ซึ่งภาพเขียนบริเวณเหนือหน้าต่างช่องที่ 3 เขียนเรื่องราวไว้ 2 กัณฑ์ ประกอบด้วย ส่วนด้านบนเป็นกัณฑ์ที่ 9 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ต่อจากกัณฑ์ที่ 8 และเขียนเล่าเรื่องของกัณฑ์นี้ย้อนกลับไปในแถวล่าง (ฝาผนังระหว่างหน้าต่างช่องที่ 3 และ 2) และจบเรื่องราวในกัณฑ์ที่ 8 วนวสนกัณฑ์ในบริเวณนี้
ภาพเขียนจิตรกรรมเล่าเรื่องในกัณฑ์ที่ 8 วนวสนกัณฑ์ เป็นเหตุการณ์ในตอนที่เจ้าจันทคาธ พบกับธิดาของเศรษฐี 3 คน คือ นางทิพโสดา นางประทุมบุปผา และนางสุคันธเกศี นางทั้ง 3 ได้พลัดตกน้ำแล้วลอยน้ำมา จนมาพบกับเจ้าจันทคาธ และขออาศัยร่วมกับเจ้าจันทคาธ ครั้นนั้นมียักษ์ป่าตนหนึ่ง มีกายใหญ่ประมาณเท่าภูเขามาพบเข้ากับเจ้าจันทคาธและนางทั้งสาม จึงได้กล่าวขอนางทั้ง3 จากเจ้าจันทคาธ แต่เจ้าจันทคาธไม่ให้ ยักษ์จึงถลึงตาดูเจ้าจันทคาธ ดวงตาของยักษ์นั้นประมาณเท่าผลมะพร้าว มีสีแดงดุจถ่านเพลิง ยักษ์เอื้อมมือไปจะจับนางทั้ง 3 ครานั้นเจ้าจันทคาธจึงชักพระขรรค์ออกแกว่ง ยักษ์ตกใจกลัวในฤทธาของอานุภาพพระขรรค์ จึงหนีเข้าป่าไป
เจ้าจันทคาธและนางทั้ง 3 จึงพักอาศัยอยู่ที่เงื้อมเขาหนึ่ง โดยมิได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสียใดแก่สตรีเพศทั้ง 3 เพราะกลัวเสียกำลัง ฝ่ายนางทั้ง 3 จึงปรึกษากันถึงบุรุษผู้นี้ มิได้คิดจะลวนลามพวกเราเลย จึงได้เอ่ยถามผู้เป็นบุรุษเพศ ฝ่ายเจ้าจันทคาธจึงตอบไปว่า
บทสนทนาระหว่างเจ้าจันทคาธและธิดาเศรษฐีทั้ง 3
เจ้าจันทคาธ: “อันเพราะข้าพเจ้าเป็นคนซื่อตรง ไม่ร่วมอภิรมย์กับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของข้าพเจ้า และมารดาบิดาของเธอทั้ง 3 ยังไม่ได้ยกให้”
ธิดาเศรษฐีทั้ง 3: “ถ้าอย่างนั้น ขอท่านจงไปสู่สำนักมารดาบิดาของพวกข้าพเจ้าเถิด”
เจ้าจันทคาธ: “ท่านเหล่านั้นอยู่ที่ไหน
ธิดาเศรษฐีทั้ง 3: อยู่ในเมืองสังกัสสนคร
เจ้าจันทคาธ: ทำไมพวกเธอจึงพากันมาที่นี่”
นางทั้ง 3 จึงเล่าความและที่มาให้เจาจันทคาธฟัง เมื่อสลับแล้วจึงตรัสถามนางทั้ง 3 ต่อไปว่า
เจ้าจันทคาธ: สังกัสสนครอยู่ทิศไหน
ธิดาเศรษฐีทั้ง 3: พวกข้าพเจ้าไม่ทราบ
เจ้าจันทคาธ: ถ้าอย่างนั้นเราจักพาพวกเธอไปอย่างไรได้
จากนั้นนางทั้ง 3 จึงอ้อนวอนให้เจ้าจันทคาธพากลับไปยังสังกัสสนครที่จากมา รุ่งขึ้นเจ้าจันทคาธจึงพานางทั้ง 3 ออกเดินไปตามป่าได้เดือนหนึ่งบรรลุถึงปาตลีบุตรนคร แล้วเข้าอาศัยอยู่ที่ศาลานอกบ้านแห่งพวกกรมช้าง แห่งปาตลีบุตรนคร ครั้นนั้นช้างพระที่นั่งของพระเจ้าปาตลีบุตรหายไปจากโรงช้าง เหล่ากรมช้างเที่ยวแสวงหาได้เดือนหนึ่ง แต่ยังไม่พบ พวกกรมช้างจึงได้เข้าไปไตร่ถาม เจ้าจันทคาธที่ประทับนั่งอยู่ในศาลากับธิดาเศรษฐีทั้ง 3 ความว่า “พ่อพวกเธอมาจากป่า ได้พบช้างพระที่นั่งของพระเจ้าอยู่หัวของเราบ้างไหม” เมื่อทรงสดับความเเล้วเห็นทีจักต้องช่วย จึงอมดวงมณีวิเศษที่ได้จากนาค แล้วทอดพระเนตรดู ทรงแลเห็นช้างพระที่นั่ง อันเกิดจากเทพารักษ์ซ่อนเอาไว้ จึงตรัสบอกเหล่ากรมช้างว่า “ดูก่อนท่านทั้งหลาย ช้างพระที่นั่งนั้นเทพารักษ์ซ่อนไว้ที่เขาโน้น จงบวงสรวงเทพารักษ์ๆ จักปล่อยให้กลับมาในคืนวันนี้” ฝ่ายนายบ้านกับพวกกรมช้างจึงพร้อมกันบวงสรวงเทพารักษ์ ตามคำชี้เเนะของเจ้าจันทคาธ เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าเทพารักษ์จึงเกิดความเลื่อมใสเจ้าจันทคาธ ซึ่งตนได้รับพลีกรรมเพราะเจ้าจันทคาธบอกพวกกรมช้าง จึงได้ปล่อยช้างพระที่นั่งให้กลับคืนยังโรงช้างในคืนนั้นดังเดิม
รุ่งขึ้นพวกกรมช้างเห็นช้างอยู่ในโรง จึงพากันยินดีต่อเจ้าจันทคาธว่าเป็นคนรักษาสัตย์ จึงพร้อมใจกันจัดเครื่องบรรณาการต่าง ๆ ไปถวายเจ้าจันทคาธ ผลพวงของการกระทำในครั้งนี้ทำให้กิตติศัพท์ของเจ้าจันทคาธปรากฏไปทั่วพระนคร
ต่อมาเจ้าจันทคาธจึงพานางทั้ง 3 ออกจากเมือง ผจญเข้าไปในป่านานาประการเพื่อพานางทั้งสามกลับเมืองสังกัสนคร ซึ่งเรื่องราวในกัณฑ์ที่ 8 วนวสนกัณฑ์ได้จบลงตรงนี้
Physical Data