Description
Digital Data
ภาพจิตรกรรมบนฝั่งขวา เป็นภาพจิตรกรรมตอนที่พระพุทธองค์ทรงหยั่งรู้ถึงน้ำพระทัยในโลกุตตรธรรมของพญาชุมพูบดีแล้วก็เทศนาอริยมรรคทั้ง 8 ซึ่งเมื่อแสดงเสร็จสิ้น พญาชุมพูบดีก็บรรลุโสดาปัตติผลและมีอัธยาศัยน้อมสู่การบวชอย่างแรงกล้า เมื่อถึงระดับนั้นแล้ว ภาพของเมืองและสิ่งเนรมิตทั้งหลายก็กลายสู่สภาพเดิมอันเป็นเวฬุวนารามมหาวิหาร ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยพระอริยสาวกและบริษัททั้ง 4 อํามาตย์ราชบริพารของพญาชุมพูบดีทุกคนได้รับรสแห่งธรรมในครั้งนั้นต่างมีดวงตาเห็นธรรมและรับเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ครั้นพญาชุมพูบดีหายจากความงุนงงแล้วก็เข้าไปขอบวชกับพระพุทธองค์ บรรดาท้าวพญาทั้งร้อยเอ็ดหัวเมืองและเสนาข้าราชการของพญาชุมพูบดีซึ่งบรรลุโสดาบันแล้วก็ขอบวชด้วย พระพุทธองค์ก็ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้โดยทั่วกัน ครั้งนั้นพญาพิมพิสารก็จัดหาเครื่องบริขารให้ผู้บวชนั้นจนครบ รูปแบบของศิลปกรรมของพม่ามีทั้งงานสถาปัตยกรรมและการแต่งกายของเหล่าทหาร เสนาอมาตย์และข้าราชบริพารคือไม่สวมเสื้อไว้ผมสั้น นุ่งผ้ามีลวดลายหรือผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย”หรือ“เค็ดม่าม”โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมรหรือโจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่า ที่มีสวดลายสัตว์หิมพานต์ อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทยวนและไทใหญ่ในแถบนี้
Physical Data