Description
Digital Data
ภาพฝั่งขวาของภาพวาดช่องล่างสุด ภาพวาดในส่วนนี้เป็นการเริ่มการเล่าเรื่องพุทธประวัติในภาพพระบฎผืนนี้ น่าจะเป็นภาพวาดปางประสูติ ขวามือสุดน่าจะเป็นภาพของพระนางสิริมหามายาขณะประสูติเจ้าชายสิทธัตถะใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินี ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์ กับ เมืองเทวทหะ ในมหามงคลดิถีวิสาขะนักขัตฤกษ์ เพ็ญเดือน 6 วันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ ปีจอ ก่อนพระพุทธศักราช 80 ปี เวลาสายใกล้เที่ยง ณ ท่ามกลางเหล่านารีบริพาร และหมู่เทวดา โดยภาพที่ยังหลงเหลือสามารถมองเห็นเพียงบางส่วนคือส่วนของด้านบนสุดของพระเศียรมีการเกล้าผมประดับพระเศียรด้วยรัดเกล้าหรือมาลัยกลางพระเศียร และเห็นพระกร(มือ)เกี่ยวต้นสาละ และยังสามารถเห็นส่วนของชายพระภูษาทรง(ชายผ้านุ่ง) ภาพถัดไปเป็นภาพที่ถูกผ่านการซ่อมแซมมาแล้วเช่นกันเป็นภาพบุคคลที่มีรูปร่างคล้ายเด็กยืนอยู่บนเนินเตี้ยๆด้านบนสุดจะเห็นนิ้วพระกรเล็กๆชี้ขึ้นไปบนฟ้า ที่น่าจะพอสันนิษฐานได้ว่าเป็นภาพของเจ้าชายสิทธัตถะขณะทรงประสูติเสด็จพระราชดำเนินไปได้ 7 ก้าว ก็มีปทุมชาติดอกบัวรองรับพระบาท ประทับยืนบนทิพยปทุมบุปผชาติอันมีกลีบถึง 100 กลีบ ทรงเปล่งพระวาจาเป็นบุพนิมิตแห่งพระสัมมาสัมโพธิญาณ ด้วยอัศจรรย์ว่า
“อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺสมึ เชฏฺโฐ เสฏฺโฐ อนุตฺตโร อยมนฺ เม ชาติ นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว”
แปลได้ว่า “ในโลกนี้เราเป็นยอด เป็นผู้เจริญที่สุด เป็นผู้ประเสริฐที่สุด การเกิดของเราจักมีเป็นครั้งสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปไม่มี”
ในส่วนซ้ายสุดเป็นภาพเทวดายืนประคองพระอัญชลี มีรูปแบบและการแต่งกายคล้ายกับเทวดาปูนปั้นที่วัดเจ็ดยอดหรือวัดโพธารามมหาวิหาร กล่าวคือ สวมเคร่องประดับสีทอง สวมมงกุฎพุ่มยอดแหลมมีกลีบบัวและรัดเกล้าทรงกรวยสวมกุณฑลรูปวงกลม น่าจะสวมกรองศอสองสายสวมพาหุรัดกำไลอย่างละสองวงและกำไลข้อเท้าข้างละวง นุ่งผ้าคล้ายโสร่งไม่ทราบสีเนื่องจากบริเวณนี้ชำรุดแลถูกซ่อมแซมมาแล้ว เหลือแต่ชายพกของผ้านุ่งที่มีหลายชั้นสะบัดงอนไปด้านหน้า มีสีดำ แดงและเขียว ที่เอวมีรัดประคตสีน้ำเงินและแดง
Physical Data