Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมบริเวณด้านล่าง (ระหว่างหน้าต่างช่องที่ 2 และ 3) เขียนภาพเหตุการณ์ในตอนที่เจ้าจันทคาธพานางธิดาของเศรษฐีทั้ง 3 ออกเดินไปตามป่า ได้เดือนหนึ่ง จนมาบรรลุถึงเมืองปาตลีบุตร จึงพากันเข้าไปอาศัยอยู่ที่ศาลานอกบ้านแห่งพวกกรมช้าง
ครั้นนั้นช้างพระที่นั่งของพระเจ้าปาตลีบุตรหายไปจากโรงช้าง เหล่ากรมช้างเที่ยวแสวงหาได้เดือนหนึ่ง แต่ยังไม่พบ พวกกรมช้างจึงได้เข้าไปไตร่ถาม เจ้าจันทคาธที่ประทับนั่งอยู่ในศาลากับธิดาเศรษฐีทั้ง 3 ความว่า “พ่อพวกเธอมาจากป่า ได้พบช้างพระที่นั่งของพระเจ้าอยู่หัวของเราบ้างไหม” เมื่อทรงสดับความเเล้วเห็นทีจักต้องช่วย จึงอมดวงมณีวิเศษที่ได้จากนาค แล้วทอดพระเนตรดู ทรงแลเห็นช้างพระที่นั่ง อันเกิดจากเทพารักษ์ซ่อนเอาไว้ จึงตรัสบอกเหล่ากรมช้างว่า “ดูก่อนท่านทั้งหลาย ช้างพระที่นั่งนั้นเทพารักษ์ซ่อนไว้ที่เขาโน้น จงบวงสรวงเทพารักษ์ๆ จักปล่อยให้กลับมาในคืนวันนี้” ฝ่ายนายบ้านกับพวกกรมช้างจึงพร้อมกันบวงสรวงเทพารักษ์ ตามคำชี้เเนะของเจ้าจันทคาธ เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าเทพารักษ์จึงเกิดความเลื่อมใสเจ้าจันทคาธ ซึ่งตนได้รับพลีกรรมเพราะเจ้าจันทคาธบอกพวกกรมช้าง จึงได้ปล่อยช้างพระที่นั่งให้กลับคืนยังโรงช้างในคืนนั้นดังเดิม
ในภาพจะเห็นเหล่าควาญช้างที่มาเข้าเฝ้าเจ้าจันทคาธเเล้วทูลถามว่าเห็นช้างพระที่นั่งบ้างหรือไม่ ส่วนภายในศาลาเขียนภาพเจ้าจันทคาธเเละลูกสาวเศรษฐีทั้ง 3 ซึ่งภาพเขียนบริเวณนี้เลือนลางไปมาก เเต่ก็ยังพออนุมานได้ว่าเป็นเรื่องราวในตอนใดของชาดก บริเวณใกล้กับศาลาที่ประทับของเจ้าจันทคาธลูกสาวเศรษฐีทั้ง 3 มีเรือนอยู่หลังหนึ่ง เรือนในภาพมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างล้านนาเเละสถาปัตยกรรมแบบทางกรุงเทพ
ควาญช้างทั้ง 2 ในภาพสวมเสื้อผ้าสีเรียบแขนยาว ไว้ผมทรงมหาดไทย ลักษณะคือ ไว้ผมกลางศีรษะและด้านข้างโกนผมบริเวณโดยรอบ คล้ายกับการนำกะลามาครอบหัว แต่ไม่ได้แสกกลางแบบทางภาคกลางของไทย ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากทางกรุงเทพ และไม่สวมรองเท้า
Physical Data