Description
Digital Data
ภาพจิตรกรรมมุมด้านกลางซ้าย เป็นภาพตอนเจ้าชายสิทธัตถะประลองศร พระราชบิดาได้ทรงแจ้งไปยังพระญาติวงศ์ทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายพระมารดาและฝ่ายพระบิดา ให้จัดส่งพระราชธิดามาเพื่อคัดเลือกสตรีผู้สมควรจะอภิเษกสมรสกับเจ้าชายสิทธัตถะเพื่อผูกมัดพระราชโอรสให้เสด็จอยู่ครองราชสมบัติมากกว่าที่จะให้เสด็จออกทรงผนวชแต่พระญาติทั้งปวงเห็นว่า ควรจะให้เจ้าชายได้แสดงความสามารถในศิลปศาสตร์ที่ทรงเล่าเรียนมา ให้เป็นที่ประจักษ์แก่หมูพระญาติก่อน พระราชบิดาจึงอัญเชิญพระญาติวงศ์มาประชุมกันที่หน้าพระมณฑลที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ ณ ใจกลางเมือง เพื่อชมเจ้าชายแสดงการยิงธนู
ธนูที่เจ้าชายยิงมีชื่อว่า “สหัสถามธนู” แปลว่า ธนูที่มีน้ำหนักขนาดที่คนจำนวนหนึ่งพันคนจึงจะยกขึ้นได้ แต่เจ้าชายทรงยกธนูนั้นขึ้นได้ บรรดาพระญาติวงศ์ทั้งปวงได้เห็นแล้ว ต่างชื่นชมยิ่งนัก แล้วเจ้าชายทรงลองดีดสายธนูก่อนยิง เสียงสายธนูดังกระหึ่มครึ้มครางไปทั้งกรุงกบิลพัสดุ์ จนคนทั้งเมือง ที่ไม่รู้และไม่ได้มาชมเจ้าชายทรงยิงธนู ต่างถามกันว่านั่นเสียงอะไร
เป้าที่เจ้าชายยิงธนูในวันนั้น คือ ขนหางทรายจามรีที่วางไว้ในระยะหนึ่งโยชน์ ปรากฏว่าเจ้าชายทรงยิง ถูกขาดตรงกลางพอดี ทั้งนี้ท่านว่า ด้วยพระเนตรอันผ่องใสพร้อมด้วยประสาททั้ง 5 อันบริสุทธิ์อันปราศจากมลทิน พระญาติวงศ์ ทั้งปวงจึงยอมถวายพระราชธิดา ซึ่งมีพระนางพิมพายโสธรารวมอยู่ด้วย เพื่อคัดเลือกเป็นพระชายา ซึ่งในภาพมีการวาดภาพที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวอำเภอแม่แจ่มในสมัยนั้นลงไปอีกด้วยตัวอย่างเช่น การแต่งกายของชายหญิงอีกด้วย โดยที่ชายชาวพื้นเมืองไม่สวมเสื้อใว้ผมสั้น นุ่งผ้ามีลวดลายหรือผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย”หรือ“เค็ดม่าม”โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมรหรือโจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่า ที่มีสวดลายสัตว์หิมพานต์ อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทยวนและไทใหญ่ในแถบนี้ ส่วนการแต่งกายของฝ่ายหญิงมีทั้งเปลือยอก นำผ้าแถบที่มีลวดลายมาคลุมไหล่ บ้างก็นำผ้าแถบมามัดอกมีการทำผมมุ่นมวยต่ำไว้ด้านหลัง นุ่งผ้า “ซิ่นต๋า” เป็นผ้าซิ่นที่มีลวดลายเส้นแนวขวางลำตัว ที่ล้วนเป็นเอกลักษณ์ของหญิงชาวไทยวนในแถบนี้
Physical Data