Description
Digital Data
ภาพเขียนขบวนเสด็จของพระญาธรรมสุชาต เเละพระกุมารี ขณะเสด็จประพาสอุทยาน
ในบริเวณด้านหลังซ้ายบน มีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “พระยาเมิงกาสี…พารุ(ลูก)….ไปเหล้รสวน อุรยานแล…” แปลได้ว่า “พญาเมืองกาสีพาพระธิดา..ไปเที่ยวที่อุทยาน”
บริเวณด้านหน้าของขบวนมีเหล่าเสนา ทหาร และพนักงานเดินนำขบวน บริเวณนี้มีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “เสนา” และ “จำหนวด” แปลว่า “ตำรวจ”
พระญาธรรมสุชาตทรงเครื่องแบบกษัตริย์สวมกระบังหน้ามีกรรเจียก คือเครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก ใช้ประกอบกับพระมหามงกุฎ พระชฎา หรือรัดเกล้า และสวมกรองศอทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลาคือกางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้งมีผ้าห้อยหน้าหรือชายไหวระหว่างชายแครง มีแถบผ้าปลายงอนหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง นุ่งโจงทับ ปัจจุบันยังหมายถึงกางเกงด้วย ราชาศัพท์ใช้ว่า พระสนับเพลา ไม่สวมฉลองพระบาท
ส่วนด้านหน้าขบวนมีเหล่าเสนา ทหาร และพนักงานน้อยใหญ่หลากหลายชาติพันธุ์ สวมเครื่องเเต่งที่หลากหลาย
บริเวณด้านหน้าสุดมีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ว่า “เสนา” เหล่าเสนาในภาพนั้นแต่งกายแบบชาวบางกอกในยุคนั้น คือ สวมเสื้อผ้าสีเรียบแขนยาวนุ่งโจงกระเบน ไว้ทรงผม “ทรงมหาดไทย” ลักษณะคือ ไว้ผมกลางศีรษะ ด้านข้างโกนผมบริเวณโดยรอบ คล้ายกับการนำกะลามาครอบหัว แต่ไม่ได้แสกกลางแบบทางภาคกลางของไทย ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากทางกรุงเทพ และไม่สวมรองเท้า
ถัดมาเป็นกลุ่มชายสามคน บริเวณนี้มีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ว่า “จำหนวด” แปลว่า “ตำรวจ” สวมเครื่องแต่งกายที่รับอิทธิพลแบบชาวบางกอกในยุคนั้น คือ สวมเสื้อผ้าสีเรียบแขนยาวนุ่งโจงกระเบน สวมหมวกแบบชาวตะวันตก ในมือถือธงไชยและตำราใบลาน
ถัดมาเป็นเหล่าทหารหลากหลายเชื้อชาติ เช่น ทหารแขก ทหารชาวจีน สวมเครื่องเเบบทหารแบบชาวตะวันตกที่นิยมช่วงนั้น คือสวมเครื่องแบบเสื้อสีแดงกางเกงขาวสวมหมวกสีขาว ในมือแบกปืนคาบศิลา ไว้หนวดและเคราซึ่งไม่ค่อยนิยมในหมู่ชายชาวไทลื้อและไทยวนในยุคนั้น สวมรองเท้าหนังสีดำ
ส่วนพนักงานหามเสลี่ยงและทหารด้านท้ายขบวนสวมเครื่องแต่งกายแบบแบบชายชาวไทยวน หรือ ชายชาวไทลื้อในล้านนาในยุคนั้น คือ สวมเสื้อคอตั้งแขนยาวทำจากผ้าพื้นสีเรียบ นุ่งผ้ามีลวดลาย หรือ ผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ“นุ่งผ้าต้อย”หรือ“เค็ดม่าม”โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือ โจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่าที่มีลวดลายสัตว์หิมพานต์ อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทลื้อและไทยวนในแถบนี้ ไว้ทรงผม “ทรงมหาดไทย” ลักษณะคือ ไว้ผมกลางศีรษะและด้านข้างโกนผมบริเวณโดยรอบ คล้ายกับการนำกะลามาครอบหัว แต่ไม่ได้แสกกลางแบบทางภาคกลางของไทย ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากกรุงเทพ และไม่สวมรองเท้า
ส่วนทหารด้านท้ายขบวนในมือถือไม้พลอง บ้างก็แบกปืนคาบศิลาปลายติดมีดสั้น
ในภาพช่างเขียนยังสอดเเทรกเรื่องราวในชีวิตประจำวัน เขียนลงไปในภาพเขียน เช่น เขียนภาพต้นสัปะรด หรือในภาษาล้านนาเรียกว่า “ต้นบะขะหนัด” ซึ่งถือเป็นของแปลกใหม่ในสมัยนั้น
Physical Data