Description
Digital Data
ภาพจิตรกรรมช่องที่ 4 จากขวาของภาพพระบฎผืนนี้ เป็นกัณฑ์ที่ 4 กัณฑ์วนปเวศน์ มีความว่า พระเวสสันดรและพระนางมัทรีพร้อมด้วยพระราชโอรสธิดาเสด็จจากพระนครสีพีมาถึงภูเขาตาลบรรพต แม่น้ำโกติมารา เขาอัญชันและมาตุลนคร แห่งแคว้นเจตราษฎร์ รวมระยะทางถึง 30 โยชน์ แต่เทพยดาช่วยย่นหนทางให้ มาถึงมาตุลนครได้ในเวลาวันเดียว เสด็จเข้าประทับแรมอยู่ ณ ศาลาใกล้ประตูเมือง เช้าวันรุ่งขึ้นความทราบถึง กษัตริย์เจตราษฎร์ ต่างก็รีบไปเฝ้าไต่ถามถึงเหตุการณ์ พระเวสสันดรตรัสเล่าความจริงให้ ทราบทุกประการและทรงขอให้ช่วยชี้ทางที่จะไปเขาวงกต บรรดากษัตริย์เจตราษฎร์จึงทูลเสนอว่าจะไปเข้า เฝ้าพระเจ้ากรุงสญชัย เพื่อทูลขอพระราชทานอภัยโทษ กลับคืนเข้าพระนคร พระเวสสันดรตรัสว่ าพระบิดาไม่มีอิสระในเรื่องนี้ ไม่สามารถที่จะขัดขืนคำขอร้องของประชาชนได้ เพราะชาวสีพีมีความโกรธแค้นมาก กษัตริย์เจตราษฏร์ จึงทูลขอให้ ทรงครอบครองราชสมบัติมาตุลนครแทน พระเวสสนดรทรงปฏิเสธอ้าง ว่าผิดพระราชประสงค์ ทั้งยังเป็นการก่อให้เห็นว่าพระองค์จะตั้งตนเป็นใหญ่และกบฏต่อพระเจ้ากรุงสญชัย อาจเป็นเหตุให้ นครสีพีและนครเจตราษฎ์ ขาดสัมพั นธไมตรี ที่ดีต่อกันได้ ในที่สุดจึงทรงขอร้องให้ ชี้ทางที่จะไปเขาวงกต กษัตริย์เจตราษฎร์จึงทูลเชิญให้เสด็จประทับในพระนครก่อน พระเวสสันดรก็ทรงปฏิเสธอีกเพียง เสด็จประทับแรมในศาลานั้นอีกคืนหนึ่ง ครั้นรุ่งขึ้นสี่กษัตริย์ก็ตามส่งเสด็จจนสุดแดนเจตราษฎร์ทูลชี้ทางที่ จะเสด็จต่อไปและทรงตั้งให้พรานผู้หนึ่งชื่อ เจตบุตร เป็นผู้ถวายอารักขาระแวดระวังมิให้มีใครมารบกวน และทำอันตรายได้
พระเวสสันดรพร้อมด้วยพระนางมัทรี และพระราชโอรสธิดา เสด็จไปถึงเขาคันธมาทน์ก็ประทับแรม วันรุ่งขึ้นก็เสด็จไปถึงวิบุลบรรพต เลียบตามฝั่งแม่น้ำเกตุมะดี หยุดประทับใต้ร่มไม้ริมฝั่ง พราหมณ์ผู้หนึ่งได้นำเนื้อมาถวาย พระองค์จึงถอดสุวรรณจุฬามณีให้แก่พราหมณ์ แล้วเสด็จไปยังมหานิโครธข้ามเขาสุวรรณบรรพต เสวยผลไมแล้วเสด็จต่อไปยังนาฬิกบรรพต
ครั้งนั้นเวสสุกรรมเทพบุตรได้ร้บเทวบัญชาจากพระอินทร์ให้มานิรมิตบรรณศาลาไว้ 2 หลัง พร้อมด้วยเครื่องบรรพชิตบริขาร ทุกประการแล้วเขียนหนังสืออนุญาตให้ผู้ใคร่ประสงค์จะบรรพชาพึงถือเอาอาศรมสถาน และบริขารเหล่านี้เป็นของตน แล้วบันดาลให้สัตว์ร้ายและนกอันมีเสียงที่ไม่ไพเราะหนีไปอยู่เสียที่อื่น แล้วกำชับให้เจ้าป่าดูแล 4 กษัตรย์ เมื่อพระเวสสันดรเสด็จมาถึงก็เสด็จเข้าไปโดยลำพัง แล้วเปลื้องอาภรณ์ออกทรงเครื่องบรรพชา เสด็จออกมารับพระนางมัทรี พระนางมัทรีก็เสด็จเข้าไปในศาลาอีกหลังหนึ่งทรงเปลื้องอาภรณ์และ แต่งเป็นตาปสินี พร้อมทั้งพระราชโอรสและธิดา พระนางมัทรีรับอาสาไปหาผลไม้มาถวายพระเวสสันดรก็ทรงยินยอม แต่ทรงขอสัญญาว่าต่อไปนี้อย่าให้พระนางมัทรีเข้ามาหาในเวลากลางคืนขณะที่ลับตาสองกุมาร พระนางมทรีก็ทรงปฏิบัตตาม สี่กษัตริย์ก็ทรงผนวชเป็นฤาษีอยู่ ณ เขาวงกตเป็นเวลา 7 เดือน ต่างก็ปฏิบัติกิจวัตรตามหน้าที่ โดยไม่บกพร่องด้วยอำนาจบุญกุศลของพระองค์ทำให้ฝูงสัตว์ที่อยู่ในระยะหนึ่งโยชน์โดยรอบเขาวงกตมีความเมตตาปรานีต่อกันและกัน
ในภาพมีเหตุการณ์ด้วยกัน 2 เหตุการณ์คือ ด้านบนเป็นตอนที่พระเวสสันดรพร้อมกับพระมัทรี และพระชาลี พระกัณหา มีเหล่าเสนาบดีมาทูลเชิญเข้าเมืองมาตุลนคร แห่งแคว้นเจตราษฎร์ ด้านล่างเป็นเหตุการณ์ที่พระเวสสันดรพร้อมกับพระมัทรี และพระชาลี พระกัณหา เดินเข้าสู่เขาวงกต
Physical Data