Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมบริเวณด้านบน (เหนือหน้าต่าง) เขียนเรื่องราวที่เกิดบริเวณฝั่งขวาของปราสาทพระเจ้าพันธุมวดี เขียนภาพพระเจ้าพันธุมวดี นอนประทับอยู่ในปราสาท พระอิริยาบถทรงมีพระทัยกลัดกลุ้ม เบื้องหน้ามีเหล่าอมาตย์น้อยใหญ่ และเหล่าหญิงชาวเมือง ที่มีบุตรแต่ไร้สามีเข้าเฝ้า เพื่อไต่สวนถึงอาเพศ ภัยที่เกิดขึ้นกับอานาประชาราษฏร อันเนื่องมาจากการผิดศีลธรรม ของเหล่าหญิงสาวในเมือง ที่ต่างพากันตั้งครรภ์โดยไร้สามี ทำให้เทวดาอารักษ์พากันละทิ้งบ้านเมืองไปเสียหมด ครั้นนั้นพระเจ้าพันธุมวดีทรงรับสั่งชี้โทษหญิงเหล่านั้น
พระเจ้าพันธุมวดีทรงเครื่องแบบกษัตริย์สวมกระบังหน้ามีกรรเจียกคือเครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก ใช้ประกอบกับพระมหามงกุฎ พระชฎา หรือรัดเกล้า และสวมกรองศอทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลาคือกางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้งมีผ้าห้อยหน้าหรือชายไหวระหว่างชายแครง มีแถบผ้าปลายงอนหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง นุ่งโจงทับ ปัจจุบันยังหมายถึงกางเกงด้วย ราชาศัพท์ใช้ว่า พระสนับเพลา ไม่สวมฉลองพระบาท ประทับนอนอยู่บนสลีหรือที่นอนสีดำข้างแดงที่เป็นรูปแบบของชาวไทลื้อ
ส่วนเหล่าอมาตย์สวมเสื้อแขนยาวคอตั้งสีเรียบ มีทั้งสีขาวและสีคราม น่าจะรับอิทธิพลมาจากกรุงเทพ นุ่งผ้ามีลวดลาย หรือ ผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย”หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือ โจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่า นิยมสักลวดลายสัตว์หิมพานต์ อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทลื้อและไทยวนในแถบนี้ และไว้ผมทรงมหาดไทย
ส่วนเหล่าหญิงสาว สวมใส่เสื้อสีเข้มไว้ผมยาวโดยทำผมมวยแบบต่างๆไว้กลางศีรษะ มีทั้งแบบ “ตั้งเกล้า” และ “วิดว้อง”
บริเวณด้านหน้ามีเครื่องกระเบื้องลายครามของจีน ลวดลายมังกร
Physical Data