Description
Digital Data
จิตรกรรมในช่องนี้เริ่มบริเวณเหนือประตูทางออกของฝาผนังฝั่งทิศเหนือ ภาพเขียนส่วนใหญ่เสียหายไปค่อนข้างมาก เนื่องจากการบูรณะซ่อมแซมอาคาร เกิดฝนตกหนักจนเป็นเหตุให้น้ำฝนตกลงใส่ภาพ จนเป็นเหตุให้ภาพเขียนได้รับความเสียหาย
ภาพเขียนจิตรกรรมในส่วนนี้เริ่มที่บริเวณเหนือประตูฝั่งซ้ายมือ เขียนเรื่องราวต่อจากกัณฑ์ที่ 3 วนจรณกัณฑ์ เป็นเหตุการณ์ในตอนที่ยักษ์สองสามีภรรยาพาสองกุมารไปส่งยังเมืองกาสี และได้ให้พรแก่สองกุมารว่า “ขอกุมารทั้งสองจงมีอายุยืน อย่ามีโรค จงมีแต่ความสุข มีเดชมาก มียศมาก มีลาภมาก และมีเมตตากรุณาแก่ประชาชนทั้งหลายเถิด” ครั้นสองกุมารรับพรจากสองยักษ์เเล้ว ก็ได้ให้โอวาทแก่สองยักษ์ว่า “ท่านทั้งสองอย่าประมาท” ยักษ์ทั้งสองจึงได้ลากลับไปที่อยู่ของตน
ต่อมาช่างเขียน เขียนเริ่มเล่าเรื่องในกัณฑ์ที่ 4 ภริยลภนกัณฑ์ (ตอนกลาง) เป็นเรื่องราวในตอนที่สุริยคาธและจันทคาธเดินมาถึงบ้านอุกัษฐะเศรษฐี อุกัษฐะเศรษฐีผู้นี้เป็นผู้มีสมบัติมาก มีทั้งทาสทาสี กรรมกร และช้างม้าโคกระบือมาก บริเวณใต้เรือนมีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “ฅนเรือนเสฏฐีขูดหัวหนี้แล” แปลได้ว่า “คนในเรือนของเศรษฐีโกนหัวกันถ้วนทุกคน”
ครั้นนั้นสองกุมารมาถึงยังเรือนอุกัษฐะเศรษฐี สองกุมารจึงเข้าไปขอแบ่งภักษาหาร เห็นกระนั้นคนรับใช้ในบ้านจึงให้ภักษาหารแล้วถามว่า “เจ้าพากันมาแต่ไหน” สองกุมารจึงตอบกลับไปว่า “มาแต่ไกล” เเล้วคนใช้จึงเอ่ยถามสองกุมารว่า “ทำไมจึงไม่โกนผม มาเราจักโกนให้” สุริยคาธจึงเอ่ยถามว่า “โกนผมเพราะอะไร” คนใช้จึงตอบกลับมาว่า “เพราะพระนางสุชาตดึงสา พระราชธิดาของพระญาธรรมสุชาตถูกอสรพิษกัดสิ้นพระชนม์” คนใช้ : สิ้นพระชนม์นานประมาณเดือนหนึ่งแล้ว แพทย์ในเมืองนี้ไม่สามารถเยียวยาได้กุมารสามารถหรือ เมื่อสุริยคาธตอบว่าสามารถรักษาให้ฟื้นคืนได้ เหล่าคนใช้จึงนำความไปบอกแก่ท่านเศรษฐีว่า “บัดนี้มีกุมารสองพี่น้องเดินหลงทางมาจากป่า สามารถรักษาคนที่ตายแล้วเป็นเดือนให้คืนชีวิตได้” เศรษฐีจึงถามว่าเวลานี้สองกุมารนั้นอยู่ที่ไหน คนใช้จึงบอกว่าอยู่ที่เรือนของข้าพเจ้าทั้งหลาย เหล่าคนใช้จึงพาสองกุมารไปยังเรือนของเศรษฐี เศรษฐีจึงถามสองกุมารว่า “เจ้าทั้งสองรู้ยาสำหรับรักษาคนที่ตายแล้วให้กลับมีชีวิตได้หรือ” สุริยคาธจึงตอบว่า “รู้” เศรษฐีจึงถามต่อไปว่า “ยานั้นมีอยู่หรือว่าหามิได้” เมื่อทราบความว่ามียาวิเศษสามารถช่วยให้คนตายฟื้นคืน จึงรู้สึกปิติดีใจ เเละให้สองกุมารอาบน้ำปัดตัว กินภักษาหาร เเละตั้งให้เป็นบุตรอันเป็นที่รักแห่งตน
สองกุมารสวมเสื้อแขนยาวมีผ้าคลุมไหล่ห้อยชายไปด้านหลัง นุ่งผ้าผืนเดียวสีเรียบที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย” หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือโจงกระเบน ผมตัดสั้น และไม่ใส่รองเท้า
Physical Data