Description
Digital Data
ภาพพระบฏชุดที่ แผ่นที่ อักษรล้านนาประกอบในภาพดังต่อไปนี้
อักษรใต้ต้นไม้ข้างรูปย่าม ถงพราม
อักษรใต้ต้นไม้ข้างเทวดาผู้หญิง เทวดาค็อุ้มเอานางกัณหา แล
อักษรเหนือเทวดาผู้ชายอุ้มเด็ก เทวบุดค็มาอุ้มเอาเจ้าชาลี แล
อักษรด้านล่างซ้าย เหนือคนนอน พรามพลาดท่าวดิ้นดะด่าวนอนหงาย วันนั้นแล
อักษรด้านล่าง ด้านขวา พรามไปทวยเอาเจ้ากันหาชารี วันนั้นแลหนา
ภาพวาดแผ่นนี้เป็นกัณฑ์ที่ 11 กัณฑ์มหาราช เป็นกัณฑ์ที่เทวดาจำแลงองค์ลงมาทำนุบำรุงขวัญสองกุมาร ก่อนเสด็จนิวัติถึงมหานครสีพี เมื่อเดินทางผ่านป่าใหญ่ชูชกจะผูกสองกุมารไว้ที่โคนต้นไม้ ส่วนตนปีนขึ้นไปนอนบนต้นไม้เหล่าเทวดาจึงแปลงร่างลงมาปกป้องสองกุมาร จนเดินทางถึงกรุงสีพี พระเจ้าสัญชัยเกิดนิมิตฝันตามคำทำนายยังความปีติปราโมทย์แด่พระองค์ เมื่อเสด็จลงหน้าลานหลวงตอนรุ่งเช้าทอดพระเนตรเห็นชูชกพากุมารน้อยสองพระองค์ ทรงทราบความจริงจึงพระราชทานค่าไถ่คืน ต่อมาชูชกก็ดับชีพตักษัยด้วยเพราะเดโชธาตุไม่ย่อย ชาลีจึงได้ทูลขอให้ไปรับพระบิดาพระมารดานิวัติพระนคร ในขณะเดียวกันเจ้านครกลิงคะได้โปรดคืนช้างปัจจัยนาคแก่นครสีพี ในภาพนี้เป็นเหตุการณ์ตอนที่ชูชกพาสองกุมารกัณหาและชาลีเดินทางผ่านป่าใหญ่สู่นครสิพี ภาพมุมขวาบนเป็นตอนที่ชูชกขึ้นไปนอนบนต้นไม้แล้วผูกสองกุมารไว้ใต้ต้นไม้ มีเทวดามาอุ้มและคอยปกป้องสองกุมารไว้ การแต่งกายของสองกุมารเป็นรูปแบบของการแต่งกายของทางกรุงเทพอย่างชัดเจนคือ ชาลีใส่เสื้อแขนยาวสวมโจงกระเบน กัณหาใส่เสื้อแขนกุดนุ่งกรโปรงยาวกรอมเท้า เกล้าผมและสวมเกี้ยวไว้กลางศีรษะ ส่วนชูชกแต่งกายคล้ายชายชาวไทยวนคือไม่สวมเสื้อใว้ผมสั้นสะพายย่ามขาวแซงดำแดงที่เป็นย่ามของชาวไทยวน นุ่งผ้าผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย”หรือ“เค็ดม่าม”โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมรหรือโจงกระเบน เห็นลายสักยันต์แต่เป็นลายสักยันต์ที่ไม่เหมือนที่พบได้ทั่วไป
พระบฏ คือ ผืนผ้าที่มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้นและแขวนไว้เพื่อบูชา คำว่า บฏ มาจากคำในภาษาบาลีว่า ปฏ (อ่านว่า ปะ-ตะ) แปลว่า ผ้าทอ หรือ ผืนผ้า ส่วนมากเป็นผ้าแถบยาว มีวาดภาพพระพุทธเจ้า นิยมแขวนไว้ในสถานที่จัดพิธีกรรมในพุทธศาสนา ใช้แทนที่พระพุทธรูป เพื่อเป็นที่เคารพบูชา ในล้านนาเรียกกันว่า “ตุงค่าว” หรือ ตุงค่าวธรรม ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น เทศน์มหาชาติ เเละตั้งธรรมหลวง เป็นต้น |
Physical Data