Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมบริเวณฝั่งขวาของปราสาทพระเจ้าธรรมสุตะ เขียนเล่าเหตุการณ์ในตอนที่อุกัษฐะเศรษฐี เข้ากราบทูลพระเจ้าธรรมสุตะ ความตอนหนึ่งว่า “บุตรของข้าพระพุทธเจ้าชื่อว่าสุริยคาธ รู้จักโอสถทิพย์ที่ทำให้กลับมีชีวิตได้ สามารถเยียวยาคนตายแล้ว ประมาณเดือนหนึ่งให้มีชีวิตขึ้นได้” เมื่อกษัตริย์สดับฟังดังนั้น จึงทรงพระโสมนัสยิ่ง แล้วทรงตรัสไปความ่ว่า “ถ้าสามารถเยียวยาธิดาของเราได้ เราจักยกราชสมบัติให้” บริเวณภายในปราสาทเขียนภาพพระเจ้าธรรมสุตะ และพระนางสุธรรมาพระมเหสี ขณะร่ำไห้ถึงพระราชธิดาครั้นถูกอสรพิษกัดตาย
พระเจ้าธรรมสุชาตทรงเครื่องแบบกษัตริย์ คือ สวมกระบังหน้ามีกรรเจียกคือเครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก ใช้ประกอบกับพระมหามงกุฎ พระชฎา หรือรัดเกล้า และสวมกรองศอทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลา คือกางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้ง มีผ้าห้อยหน้าหรือชายไหวระหว่างชายแครง มีแถบผ้าปลายงอนหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง นุ่งโจงทับ ปัจจุบันยังหมายถึงกางเกงด้วย ราชาศัพท์ใช้ว่า พระสนับเพลาส่วนพระนางสุธรรมาแต่งกายแบบหญิงในราชสำนักล้านนา คือนำผ้าแถบสีเรียบมาห่มเฉียงแบบสไบหรือคล้องทิ้งชายไปด้านหลังเรียกว่า “สะหว้ายแหล้ง” หรือ “เบี่ยงบ้าย” นุ่งซิ่นตีนจกคำ คือซิ่นที่ต่อด้วยตีนจกที่ทอด้วยดิ้นทอง หรือดิ้นเงิน ที่ส่วนมากนิยมใช้ในหมู่เจ้านายฝ่ายหญิงของล้านนา ส่วนท้องซิ่นก็เป็นรูปแบบเฉพาะที่พบได้แต่ในเมืองน่านเท่านั้น นับเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของผ้าซิ่นในเมืองน่าน ไว้ผมมุ่นมวยแบบ “วิดว้อง” ไว้กลางศีรษะมัดมวยด้วยดอกไม้ เจาะหูใส่ “ลานหู” มีลักษณะเป็นแผ่นใบลาน แผ่นเงิน หรือทองคำ นำมาม้วนแล้วใส่เข้าไป ส่วนอุกัษฐะเศรษฐีแต่งกายคล้ายกับชาวพม่าคือ ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงตัวหลวมสีขาวมีผ้าโพกหัวสีแดง
บริเวณด้านหน้าปราสาท มีของวางอยู่หลากหลายอย่าง เช่น ขันหมากคำ หรือทองคำว่าอยู่ คือเครื่องเขิน ที่มีลวดลายทองประดับอยู่ มีน้ำต้นดินเผาและจอกเงินวางอยู่หลายชุด มีกระโถนทองเหลือง พานเงิน และโถลายครามจากจีน เป็นต้น
Physical Data