Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมบริเวณฝั่งทิศเหนือถึงเหนือประตูทางเข้าพระวิหารของฝาผนังด้านทิศตะวันออก เขียนเรื่องราวในกัณฑ์ที่ 7 ติรตนลภนกัณฑ์ เป็นเรื่องราวของเจ้าจันทคาธ ภายหลังจากเรืออัปปางเเล้วพลัดกับพระนางเทวธิสังกาผู้เป็นมเหสี ครั้นเมื่อเสด็จขึ้นฝั่งก็ทรงเที่ยวแสวงหาพระมเหสีผู้เป็นที่รัก จึงได้เสด็จไปตามทางเข้าไปสู่ป่าใหญ่ เมื่อดำเนินมาได้สักพักก็มาพบกับครุฑและนาค 2 ตนสู้กัน นาคเป็นฝ่ายพ่ายและถึงแก่ความตายในที่สุด เมื่อเห็นกระนั้นเจ้าจันทคาธจึงเข้าไปช่วยนาคตนนั้นให้ฟื้นจากความ ด้วยการเคี้ยวทิพยโอสถใส่ปากนาค ด้วยฤทธิ์อันวิเศษของทิพยโอสถนาคจึงฟื้นคืนจากความตาย
เมื่อนาคฟื้นจากความตายแล้วจึงหายเข้าป่าไป และย้อนกลับมาด้วยเพศมานพ และมอบแก้ววิเศษแก่เจ้าจันทคาธ เมื่อใดนำแก้ววิเศษนี้ใส่ปากผู้นั้นจะสามารถเห็นภพภูมิต่างๆ ทั้งนาคโลก มนุษยโลก เทวโลก และสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วมานพผู้นั้นจึงลาจากไป
เหตุการณ์ต่อมากล่าวถึงเจ้าจันทคาธออกเดินทางต่อในเส้นทางหนึ่งแลเห็นวิทยาธร 2 ตนกำลังสู้กันบนอากาศ ตนหนึ่งมีชัยอีกตนหนึ่งอัปราชัยและร่วงลงสู่ปฐพี เห็นกระนั้นเจ้าจันทคาธจึงเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สามารถช่วยเหลือวิทยาธรผู้นั้นได้ เนื่องจากมีทิพยโอสถไม่เพียงพอ ด้วยจิตอันเมตตากรุณาของเจ้าจันทคาธที่มีต่อวิทยาธรๆ จึงมอบพระขรรค์แก้ว กับเกือกแก้ววิเศษแก่เจ้าจันทคาธ พระขรรค์นี้มีฤทธิ์มากสามารถแสกน้ำที่ดื่มแล้วจะไม่หิว จะมีกำลังดั่งช้างอันเกิดในตระกูลอุโบสถ 7 เชือก นอกจากนี้ยังสามารถตัดศิลา เหล็ก ภูเขาให้ขาดได้ หากภูตผี ปีศาจ ยักษ์ นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ เทพดา ประสงค์เข้าทำอันตรายใดๆ ให้แกว่งพระขรรค์เล่มนี้ เหล่าผู้ประสงค์ร้ายจักพ่ายต่อฤทธานุภาพนั้นจักพลันหนี
ส่วนเกือกแก้ว สามารถเหาะเหินเดินอากาศ แม้เเต่บนบนน้ำได้ เมื่อวิทยาธรผู้นั่นกล่าวดังนี้แก่เจ้าจันทคาธ ก็พลันสิ้นลมไปในเวลาต่อมา เรื่องราวในภาพนี้จบกัณฑ์ที่ 7 ติรตนลภนกัณฑ์ บริเวณเหนือประตูทางเข้าพระวิหาร
Physical Data