Description
Digital Data
ภาพจิตรกรรมกลางภาพ เป็นภาพของกัณฑ์ที่ 5 ชูชก เป็นกัณฑ์ที่ชูชกได้นางอมิตตามาเป็นภรรยาและหมายจะได้โอรสและธิดาพระเวสสันดรมาเป็นทาส ความเดิมในแคว้นกาลิงคะมี ขอทานเฒ่า อีกด้านหนึ่งนั้นคือพราหมณ์นาม “ชูชก”ได้เที่ยวขอทานเก็บเงินได้ถึง 100 กษาปณ์ จึงนำเงิน ไปฝากเพื่อนไว้พลางคุยอวดเศรษฐีอย่างปีตินัก จากนั้นก็ออกเดินทางตระเวนขอเงินสืบไป ส่วนพราหมณ์ผัวเมียเก็บเงินไว้นานแล้ว เห็นว่าชูชกไม่มาเอาสักที คิดว่าชูชกคงจะตายไปแล้ว จึงชวนกัน นำเงินนั้นออกมาใช้จ่ายเสียจนหมดทั้งสิ้น ครั้นชูชกหวนกลับมาทวงเอาเงิน สองผัวเมียก็ตกใจ งันงกมิรู้จะทำประการใด พราหมณ์ทั้งสองจึงยกลูกสาวคือนางอมิตดาให้แก่ชูชก ในภาพจะเป็นภาพเรื่องของนางอมิตดา ทั้งที่ชูชกมีรูปร่างอุบาทว์อัปลักษณ์ยิ่งนัก แต่นางอมิตดาก็ขยันปรนนิบัติสามีเป็นอย่างดี นางตักน้ำ ตำข้าว หุงหาอาหาร ดูแลบ้านเรือนไม่มีขาดตกบกพร่อง ความประพฤติที่ดีเพียบพร้อมของนางอมิตดาทำให้เป็นที่สรรเสริญของบรรดา พราหมณ์ทั้งหลายในหมู่บ้านนั้น ในไม่ช้า บรรดาพราหมณ์เหล่านั้นก็พากันตำหนิติเตียนภรรยาของตนที่มิได้ประพฤติตนเป็น แม่บ้านแม่เรือนอย่าง นางอมิตดาทำให้พวกภรรยาของพราหมณ์อิจฉาริษยามาคอยด่าทอนางอมิตดาอยู่ทุกวัน นางอมิตดา ถูกรุมด่าร้องไห้กลับบ้าน บอกแก่ชูชกว่าจะไม่ไปตักน้ำและไม่ทำงานบ้านอีกแล้ว ขอให้ชูชกไปทูลขอกัณหาชาลี จากพระเวสสันดร เพื่อมาช่วยทำงานบ้านแทน การแต่งกายของนางอมิตดาและภรรยาพราหมณ์ คือเปลือยอกและมีผ้ามาห่มที่ไหล่นุ่งผ้า “ซิ่นต๋า”เป็นผ้าซิ่นที่มีลวดลายเส้นในแนวขวางลำตัว มีการทำผมมุ่นมวยต่ำไว้ด้านหลัง ที่ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหญิงชาวไทยวนในแถบนี้
Physical Data