Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมบริเวณฝั่งซ้ายของปราสาทเมืองอินทปัตถ์ ภาพเขียนในบริเวณนี้ปัจจุบันลบเลือนไปเเทบทั้งหมด เขียนเรื่องราวในตอนที่พระนางเทวธิสังกาสิ้นพระชนม์ ด้วยมีดเล็กด้ามทำมาจากเขี้ยวเสือ ที่ได้มาจากพ่อค้าสำเภา หล่นตกลงหลังพระบาท เกิดเป็นแผลขนาดใหญ่ไม่สามารถรักษาได้ จนเป็นเหตุให้สิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา แต่กลายเป็นแผลใหญ่ขึ้นจนสิ้นพระชนม์ดังคำทำนายของโหร
ในบริเวณฝั่งด้านซ้ายของพระนางเทวธิสังกา บรรทัดแรกมีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่อ่านได้ความว่า “…ยวเสื..เสีย..ปั.ตีน..นางเทวธีสังกา..” ซึ่งน่าจะแปลได้ประมาณว่า “เขี้ยวเสือหล่นใส่เท้านางเทวธิสังกา”
ภาพเขียนบริเวณฝั่งซ้ายมือ ด้านหน้าของปราสาท เป็นภาพของพระนางเทวธิสังกาทรงยืนถือมีดเล็ก ปลายด้ามทำมาจากเขี้ยวเสือที่ได้มาจากพ่อค้าสำเภาต่างประเทศคนหนึ่ง พระนางทรงพอพระทัยมากจึงเก็บรักษาไว้ในที่สูง ครั้นมีดนั้นพลัดตกลง ปลายด้ามที่ทำด้วยเคี้ยวเสือตกลงถูกหลังพระบาท เเละมีพระโลหิตออก หมอหลวงจึงรีบทำการรักษา ทว่าแผลนั้นกลับกลายเป็นแผลใหญ่ขึ้น จนเป็นเหตุให้สิ้นพระชนม์ดังคำทำนายของโหราที่ทำนายไว้ครั้นทรงประสูติ
ส่วนภาพเขียนบริเวณเบื้องหน้าพระนางเทวธิสังกา เขียนภาพเหล่านางสนมกำนัลที่ช่วยเอามีดออกจากพระบาทของพระกุมารี
พระนางเทวธิสังกาแต่งกายแบบหญิงในเมืองน่าน และหญิงชาวไทยวนในล้านนา คือ นำผ้าแถบสีเรียบมาห่มคล้องทิ้งชายไปด้านหลัง นุ่งซิ่นตีนจกแต่เป็นซิ่นตีนจกที่ทอจากฝ้าย สามารถพบเห็นหญิงชาวไทยวนสวมใส่กันทั่วไปทั้งในเมืองน่านและล้านนา ตีนจกของเมืองน่านนี้มีการใส่ลวดลายเฉพาะของตนลงไป ทำให้เกิดเป็นรูปแบบเฉพาะของซิ่นตีนจกของเมืองน่าน ที่สามารถพบได้แต่เฉพาะในเมืองน่านเท่านั้น ส่วนท้องซิ่นจะมีแนวขวางลำตัวที่ดูแล้วคล้ายกับซิ่นป้อง เป็นซิ่นที่มีรูปแบบพิเศษ ซึ่งเป็นซิ่นที่มีลายในแนวขวางลำตัว ดูแล้วคล้ายกับ “ซิ่นต๋า” ของหญิงชาวไทยวนในล้านนา ผ้าซิ่นป้องจะมีการตกแต่งผ้าซิ่นด้วยการทอด้วยกรรมวิธีต่างๆในแนวขวางลำตัวที่ค่อนข้างหลากหลาย ทำให้เกิดลวดลายเพิ่มเติมขึ้น ผ้าซิ่นที่ปรากฏในภาพน่าจะเป็นการตกแต่งการทอด้วยกรรมวิธีหลายอย่าง เรียกว่า “มัดก่าน” หรือที่ทั่วไปเรียกว่า “มัดหมี่” ส่วนบนศรีษะไว้ผมยาว เกล้าผมแบบที่เรียกว่า ”ตั้งเกล้า” ใส่ลานหู คือเครื่องประดับที่มีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายใบลาน เป็นแผ่นเงิน หรือ ทองคำ นำมาม้วนแล้วใส่เข้าไป ส่วนเหล่านางสนมกำนัลแต่งกายแบบหญิงในเมืองน่าน และหญิงชาวไทยวนในล้านนา คือ นำผ้าแถบสีเรียบมาห่มคล้องทิ้งชายไปด้านหลัง นุ่งซิ่นตีนจกแต่เป็นซิ่นตีนจกที่ทอจากฝ้าย สามารถพบเห็นหญิงชาวไทยวนสวมใส่กันทั่วไปทั้งในเมืองน่านและล้านนา ตีนจกของเมืองน่านนี้มีการใส่ลวดลายเฉพาะของตนลงไป ทำให้เกิดเป็นรูปแบบเฉพาะของซิ่นตีนจกของเมืองน่าน ที่สามารถพบได้แต่เฉพาะในเมืองน่านเท่านั้น ส่วนท้องซิ่นจะมีแนวขวางลำตัวที่ดูแล้วคล้ายกับซิ่นป้อง เป็นซิ่นที่มีรูปแบบพิเศษ ซึ่งเป็นซิ่นที่มีลายในแนวขวางลำตัว ดูแล้วคล้ายกับ “ซิ่นต๋า” ของหญิงชาวไทยวนในล้านนา ผ้าซิ่นป้องจะมีการตกแต่งผ้าซิ่นด้วยการทอด้วยกรรมวิธีต่างๆในแนวขวางลำตัวที่ค่อนข้างหลากหลาย ทำให้เกิดลวดลายเพิ่มเติมขึ้น ผ้าซิ่นที่ปรากฏในภาพน่าจะเป็นการตกแต่งการทอด้วยกรรมวิธีหลายอย่าง เรียกว่า “มัดก่าน” หรือที่ทั่วไปเรียกว่า “มัดหมี่” ส่วนบนศรีษะไว้ผมยาว เกล้าผมแบบที่เรียกว่า “วิดว้อง” เเละ “ตั้งเกล้า” ที่หูใส่ลานหู คือ เครื่องประดับที่มีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายใบลาน เป็นแผ่นเงิน หรือ ทองคำ นำมาม้วนแล้วใส่เข้าไป
Physical Data