Description
Digital Data
ภาพเขียนเรื่องราวในตอนที่เหล่าเสนาอมาตย์และทหาร ออกตามหาเจ้ารัตนะแสงเมือง ที่พลัดหลงเข้าไปในป่า ในช่องนี้มีอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่หลายชุด ประกอบด้วย ชุดอักษรบริเวณมุมขวาด้านล่าง อ่านได้ความว่า “เจ้าแสงเมืองมาแอ่วป่าลวดมาจวบใส่กวางคําไปลวดปั๊ดหมู่เสนาอามาตย์ไปวันนั้นแม่นหนี้แล” แปลได้ว่า “เจ้าแสงเมืองมาประพาสป่าได้พบกวางทองคํา แล้วพลัดกันกับเหล่าเสนาอํามาตย์ไปในวันนั้น” ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านบน (ฝั่งด้านขวาบนสุด) อ่านได้ความว่า “เขาผ่อหน้าเจ้าแสงเมืองบ่หันไหนแล” แปลได้ความว่า “ตามหาร่องรอยของเจ้าแสงเมืองไม่เจอ” ด้านบนชายที่เดินก้มหน้า อ่านได้ความว่า “ผ่อหาฮอย” แปลได้ว่า “ตามหาร่องรอย”
ในภาพเป็นภาพของเหล่าเสนาอำมาตย์และเหล่าทหาร แต่งกายแบบชาวไทยวนของล้านนา และชาวพม่า อาทิเช่น ภาพเขียนชาย (คนที่เดินสะกดรอยบริเวณกลางภาพ) แต่งกายแบบชายชาวไทยวนในล้านนา คือ เปลือยอกนุ่งผ้าที่มีลวดลายผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย” หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือโจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์พื้นดำตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่า อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทยวนในแถบนี้ และสวมหมวกแบบชาวตะวันตก ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากกรุงเทพ ถัดมาเป็นภาพเขียนของชาย (คนที่ปีนต้นไม้) แต่งกายแบบชายชาวไทยวนเช่นกัน คือ สวมเสื้อคอตั้งแขนยาว นุ่งผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย” หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือโจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่าที่มีลวดลายสัตว์หิมพานต์ และไว้ผมทรงมหาดไทย ส่วนภาพเขียนของเหล่าทหารบริเวณด้านล่าง แต่งกายแบบชาวพม่า คือ สวมเสื้อสองชั้น สวมเสื้อคอกลมด้านในสวมเสื้อคลุมตัวยาวไว้ด้านนอกเรียกว่า “โต่หยี่น อิ๊งจี “ นุ่งโสร่งลายตาตาราง มีผ้าเคียนหัว การเคี่ยนหัวในลักษณะนี้เป็นแบบราชสำนัก เรียกว่าแบบ “เพาะโลง” มีหอกปักเป็นแนวด้านหลัง
Physical Data