Description
Digital Data
ภาพเขียนบริเวณกลางภาพ เขียนเรื่องราวในตอนที่พระอินทร์มาอุ้มเอานางจันทะเทวี ไปหาก่ำก๋าดำที่เมืองพาราณสี ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เขียนต่อยังจิตรกรรมแถวบนช่องที่ 1 ต่อไป
เรื่องราวในชาดกตอนหนึ่งย้อนไปพูดถึงตอนที่ ก่ำก๋าดำไขปริศนาของนางเทพกัญญาและนางพิมพาได้สำเร็จ กระนั้นดังคำที่ตรัสไว้ของท้าวพาราณสีว่า หากผู้ใดตอบปริศนาของธิดาทั้งสองได้จักยกธิดาอภิเษกกับผู้นั้น กาลนั้นท้าวพาราณสีจึงได้ถามเหล่าธิดาทั้งหมดของตนว่าใครอยากอภิเษกกับก่ำกาดำ แต่ก็ไม่มีผู้ใดตกลง เว้นเสียเเต่นางเทพกัญญาและนางพิมพานั้นตกลงที่จะอภิเษกกับก่ำก๋าดำ เพราะนางทั้งสองจําเสียงของก่ำก๋าดำได้ ครั้นนั้นเหล่าขุนนาง เสนาอามาตย์ต่างไม่พอใจที่ท้าวพาราณสีจะเลือกก่ำก๋าดำเป็นพระชามาดา (ลูกเขย) เพราะถือเป็นการผิดราชประเพณีที่จะเอาคนต่ำชั้นมาเป็นเขย ซึ่งในภายภาคหน้าจะได้เป็นกษัตริย์ผู้ครองนครต่อไป
ครั้นนั้นก่ำก๋าดำ กลับมายังเรือนของตน ก็เข้ามากราบลานางปักขิกา แล้วจึงเดินทางเข้าป่า เพื่อขอให้พระอินทร์ พระพรหม พระวิสสุกรรม เหล่าเทวดา นางฟ้า ฯลฯ ช่วย ครั้นเมื่อได้ยินคำขอของก่ำกาดำดังนั้น เหล่าเทวดาทั้งมวลต่างก็พากันแห่แหน ดีดสีตีเป่า สร้างบ้าน สร้างเมือง และนําเครื่องราชบริภัณฑ์ต่างๆ มาให้ก่ำก๋าดำ ในขณะเดียวกัน พระอินทร์ก็ได้เหาะไปยังเมืองมิถิลา อุ้มนางจันทเทวี ผู้เป็นแม่ของก่ำก๋าดำ ให้มาพบกันด้วย เสียงอื้ออึงคะนึงของหมู่เทวดานางฟ้าได้ยินไปถึงเมืองพาราณสี ผู้คนชาวเมืองตกใจคิดว่ามี ข้าศึกยกทัพมาประชิดเมืองเพื่อแย่งชิงตัวนางเทพกัญญาและนางพิมพา กระนั้นท้าวพาราณสีทรงรู้ด้วยปัญญาว่าก่ำก๋าดำนั้นเป็นผู้มีบุญ และกําลังเตรียมการเดินทางมาอภิเษกกับธิดาของตน โดยมีหมู่เทวดาแห่แหนมาร่วมยินดี ภายหลังจากการอภิเษกสมรสแล้วเสร็จ ท้าวพาราณสีจึงสถาปนาให้ก่ำก๋าดำปกครองเมืองสืบไป
ในบริเวณนี้มีอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “พญาอินทร์มาอุ้มเอานางจั๋นต๊ะเมื่อนอนหลับ ไปหื้อเจ้าก๋าดําแล” แปลได้ว่า “พระอินทร์มาอุ้มเอานางจันทะเทวีขณะที่นอนหลับไปให้เจ้ากาดํา”
พระอินทร์ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ คือสวมกระบังหน้ามีกรรเจียกคือเครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก ใช้ประกอบกับพระมหามงกุฎ พระชฎา หรือรัดเกล้า และสวมกรองศอทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน ด้านล่างบางองค์ นุ่งสนับเพลาคือกางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้งมีผ้าห้อยหน้าหรือชายไหวระหว่างชายแครง ส่วนนางจันทะเทวีมีการแต่งกายเป็นแบบสาวชาวไทยวนในล้านนา คือ เปลือยอกมีการนำผ้าแถบสีเรียบและมีลวดลาย นำมาห่มคล้องคอห้อยชายไปด้านหลัง ห่มแบบที่เรียกว่า “สะหว้ายแหล้ง” หรือ “เบี่ยงบ้าย”นุ่งซิ่นตีนจกคือซิ่นต๋าที่ต่อด้วยตีนจกคำ (ตีนจกใสดิ้นทองคำ) ที่นิยมใช้ในหญิงราชสำนักของล้านนา มุ่นมวยเรียกว่าเกล้าแบบ “วิดว้อง”ไว้กลางศีรษะ
Physical Data