Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังบริเวณนี้ เป็นส่วนที่เขียนเล่าเรื่องราวของเจ้าคัทธนกุมาร ณ เมืองจำปานคร ต่อมาจากภาพเขียนจิตรกรรมบริเวณฝั่งด้านตะวันตกของฝาผนังทิศนี้ เเละเขียนเล่าเรื่องราวต่อกันไปจนถึงฝาผนังฝั่งตะวันออกของมุขทิศใต้ เป็นเรื่องราวในตอนที่เจ้าคัทธนกุมารได้นางสีดามาเป็นชายา โดยเขียนเริ่มเรื่องที่บริเวณเสาของวิหาร ดังเนื้อหาในชาดกตอนหนึ่งความว่า ครั้นเจ้าคัทธนกุมารปราบนางยักษ์ เเละได้ช่วยนางสีดาจากนางยักษ์ได้ จึงลากลับไปยังที่พักของตน ครั้นนั้นนางสีดาได้ทูลขอของต่างหน้า เจ้าคัทธณะกุมารจึงได้ฉีกผ้าค่าแสนคำเพื่อเเทนคำสัญญาว่าจะกลับมาอภิเษกกับพระนางในภายหลัง ต่อมาภายครั้นเมื่อนางสีดากลับคืนสู่เมืองจำปานคร จึงนำความไปกราบทูลผู้เป็นพระบิดาให้ทรงทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นางจึงได้นำผ้าค่าเเสนคำที่เจ้าคัทธกุมารมอบให้เพื่อเป็นสัญญาเเทนใจให้ผู้เป็นพระบิดาทอดพระเนตร เมื่อพญาจำปานครทราบความ ก็เกิดความปิติยินดี สำนึกในบุญคุณของบุรุษที่ช่วยชีวิตธิดาของตนไว้ จึงรับสั่งให้เหล่าเสนาอำมาตย์สืบหาเจ้าของผ้าดังกล่าว หากว่าผ้าของชายใดสามารถนำมาต่อกับผ้าค่าแสนคำผืนนี้ได้จะยกพระธิดาและเมืองจำปานครให้ครอง ข่าวนี้เเพร่สะพัดไปทั่วหัวเมืองต่างๆ มีบุรุษจากเเว้นเเคว้นต่างๆพากันนำผ้าของตนมาต่อกับผ้าค่าเเสนคำผืนนั้น เเต่ก็ไม่มีผ้าของผู้ใดสามารถต่อได้พอดี เหลือเพียงชายผู้เดียวที่อาศัยอยู่กับนางจ่าสวน เเถบชานเมืองจำปานคร บุรุษผู้นี้นามว่า “คัทธนกุมาร” เมื่อทราบดังนั้นพญาจำปานครจึงรับสั่งให้เหล่าเสนาอำมาตย์ไปเชิญคัทธณะกุมารเข้ามาในเมือง เเต่ก็ถูกปฏิเสธหลายครั้งหลายครา เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นพญาจำปานครจึงรับสั่งให้จัดขบวนแห่แหน มีเหล่าไพร่พลจำนวนมากมุ่งสู่เรือนที่พักของคัทธนกุมาร เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าคัทธนกุมารจึงใจอ่อนยอมเข้าเฝ้าพญาเมืองจำปานคร จึงทรงผ้าค่าเเสนคำเข้าเมืองตามคำทูลเชิญของพญาเมืองจำปานคร จากนั้นนางสีดาจึงนำผ้าค่าเเสนคำที่นางได้รับมา นำมาต่อกับผ้าค่าเเสนคำของเจ้าคัทธนกุมาร ปรากฏว่าต่อได้พอดี ต่อมาจึงได้อภิเสกกับนางสีดา เเละขึ้นครองเมืองจำปานครในเวลาต่อมา
ถัดมาเป็นภาพเขียนจิตรกรรมในบริเวณด้านขวาของหน้าต่างบนผนังด้านสกัดของมุขทิศใต้ คือตั้งแต่ด้านบนของหน้าต่างจนถึงขวาล่าง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ปราสาทเมืองจำปานคร มีด้วยกัน 2 เหตุการณ์ คือ
เหตุการณ์แรกเป็นตอนที่เจ้าคัทธณะกุมารขึ้นครองเมืองจำปานคร จึงจัดให้มีการสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ ในภาพเจ้าคัทธกุมารประทับนั่งอยู่ภายในปราสาท โดยมีพระนางสีดาเป็นมเหสีฝ่ายขวา นางแก้วสีไวเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย พระมเหสีทั้งสองได้ให้พระโอรสนามว่า “คัทธจัน” ประสูติเเต่นางสีดา เเละ “คัทธเนตร” ประสูติเเต่นางแก้วสีไว
เหตุการณ์ที่ 2 เป็นเหตุการณ์ในตอนที่เหล่าเสนาอมาตย์มาทูลเจ้าคัทธนกุมารว่า มีทัพข้าศึกยกมาหมายจะตีเมืองจำปานคร
จากนั้นเรื่องราวข้ามมาเล่าเรื่องที่ฝาผนังฝั่งตะวันออกของมุขทิศใต้ ที่เล่าถึงข่าวลือถึงความงามของพระนางสีดา พระธิดาของพญาจำปานคร ที่เลื่องลือไปสารทิศ จนไปถึงหูของพญาไม้ร้อยกอ เจ้าเมืองขวางทะบุรี (นครราศ) และพญาเกวียนร้อยเล่ม เจ้าเมืองชวาทวดี (หงสาอังวะ) จึงแต่งทัพหลวงยกทัพมาตีเมืองจำปานคร หมายจะชิงนางสีดาไปถวายแก่เจ้าคัทธนกุมารผู้เป็นนายของตน ด้วยความไม่รู้ว่านางสีดานั้นอภิเษกเป็นพระมเหสีของเจ้าคัทธนกุมารเเล้ว ครั้นกองทัพทั้งสองเมืองเข้าประชิดเมืองจำปานครชาวบ้านชาวเมืองต่างตกใจ เเละพากันอพยพกันโกลาหล ร้อนถึงเจ้าคัทธนกุมารจึงได้เข้าปราบปรามจนมีชัยเหนือข้าศึก ภายหลังจึงรู้ว่าเป็นพญาไม้ร้อยกอ และพญาเกวียนร้อยเล่ม จึงได้เทศนาสั่งสอน เเละประทานโอวาทแก่พญาทั้งสอง
ส่วนภาพเขียนบริเวณด้านซ้ายของหน้าต่าง บนฝาสกัดของมุขทิศใต้ คือ ตั้งแต่ด้านบนของหน้าต่างจนถึงซ้ายล่าง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในพระตำหนักที่ประทับในเมืองจำปานคร มีพระนางสีดาที่กำลังดูแลเจ้าคัทธจัน ผู้เป็นพระโอรส และมีเจ้าคัทธเนตรเล่นอยู่ในบริเวณเดียวกัน
Physical Data