Description
Digital Data
ภาพพระบฏชุดที่ แผ่นที่ อักษรล้านนาประกอบในภาพดังต่อไปนี้
อักษรในปราสาทช่องซ้ายมือ นางมัทรี นางก้อมใช้
อักษรขอบล่างฐานนั่งกลางภาพ ภยาเวสสันตรมาเสวยเมิง
อักษรในปราสาทช่องขวามือ เจ้าชารี นางกันหา
ภาพวาดแผ่นนี้เป็นกัณฑ์ที่ 13 นครกัณฑ์ เป็นกัณฑ์ที่หกกษัตริย์นำพยุหโยธาเสด็จนิวัติพระนครพระเวสสันดรขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดา พระเจ้ากรุงสัญชัยตรัสสารภาพผิด พระเวสสันดรจึงทรงลาผนวชพร้อมทั้งพระนางมัทรีและเสด็จกลับสู่สิพีนคร เมื่อเสด็จถึงจึงรับสั่งให้ชาวเมืองปล่อยสัตว์ที่กักขัง ครั้นยามราตรีพระเวสสันดรทรงปริวิตกว่า รุ่งเช้าประชาชนจะแตกตื่นมารับบริจาคทาน พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ประชาชนท้าวโกสีห์ได้ทราบจึงบันดาลให้มีฝนแก้ว 7 ประการ ตกลงมาในนครสิพีสูงถึงหน้าแข้ง พระเวสสันดรจึงทรงประกาศให้ประชาชนขนเอาตามปรารถนา ที่เหลือให้ขนเข้าคลังหลวง ในการต่อมาพระเวสสันดรเถลิงราชสมบัติปกครองนครสิพีโดยทศพิธราชธรรมบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขตลอดพระชนมายุ
ในภาพเป็นเหตุการณ์ที่พระเวสสันดรกลับมายังนครสิพีและขึ้นครองราชย์
ภาพนี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเวสสันดรขึ้นครองราชย์เมืองสิพี โดยมีพระนางมัทรี กัณหาและชาลีประทับร่วมกันภายในปราสาทที่เป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่าง ไทยภาคกลาง ล้านนาและพม่า เข้าไว้ด้วยกัน การแต่งกายของทั้งสี่กษัตริย์ ทรงเครื่องทรงที่เป็นการผสมผสานระหว่างไทยภาคกลางและพม่า กล่าวคืิอทรงเครื่องด้านบนคือเสื้อและเครื่องบนพระเศียรเป็นแบบทางกรุงเทพแต่ทรงสวมโสร่งผ้าพม่าที่เรียกว่า “ลุนตยา-อชิค” มีทหารแบบทางกรุงเทพยืนยามอยู่ด้านหน้าของปราสาท
การแต่งกายของเหล่านางสนมกำนัลเป็นรูปแบบของหญิงชาวไทยวนคือ คือมีผ้าแถบมาห่มแบบสไบเรียกว่าการห่มแบ “สะหว้ายแล่ง” นุ่งผ้า “ซิ่นต๋า” เป็นผ้าซิ่นที่มีลวดลายเส้นแนวขวางลำตัว มีการทำผมมุ่นมวยไว้กลางศีรษะ ที่ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหญิงชาวไทยวนในช่วงนั้นของบริเวณนี้
ส่วนข้าราชบริพารชายมีการแต่งกายที่ได้รับอิทธิพลทางกรุงเทพเช่นกัน ที่มีรูปแบบคือ สวมเสื้อราชปะแตนแขนยาวไว้ด้านนอกด้านในมีเสื้อรองอีกชั้นหนึ่งนุ่งโจงกระเบนและไว้ผมสั้น
พระบฏ คือ ผืนผ้าที่มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้นและแขวนไว้เพื่อบูชา คำว่า บฏ มาจากคำในภาษาบาลีว่า ปฏ (อ่านว่า ปะ-ตะ) แปลว่า ผ้าทอ หรือ ผืนผ้า ส่วนมากเป็นผ้าแถบยาว มีวาดภาพพระพุทธเจ้า นิยมแขวนไว้ในสถานที่จัดพิธีกรรมในพุทธศาสนา ใช้แทนที่พระพุทธรูป เพื่อเป็นที่เคารพบูชา ในล้านนาเรียกกันว่า “ตุงค่าว” หรือ ตุงค่าวธรรม ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น เทศน์มหาชาติ เเละตั้งธรรมหลวง เป็นต้น |
Physical Data