Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังทิศตะวันออก แถวล่างช่องที่ 4 เขียนเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในเมืองพรหมทัต ตั้งประกอบด้วย เรื่องราวในตอนเริ่มเรื่องในตอนที่นางจันทะเทวีผู้เป็นมเหสีเอก ถูกนางสิงคีมผู้เป็นเหสีรองและปาละกะเสนาใส่ความ ว่าเป็นชู้กับคนเลี้ยงม้า จนเป็นเหตุให้ท้าวพรมทัตขับไล่นางออกจากเมือง ต่อมาเป็นตอนที่ท้าวพรมทัตถูกเพทุบายจากมเหสีรองว่า ก่ำก๋าดำและนางจันทะเทวีนำทัพมาหวังจะมาตีเอาเมืองพรมทัต จึงรับสั่งให้ปาละกะเสนานำทัพออกไปรบกับก่ำก๋าดำ เเละตอนที่นางสิงคีโดนธรณีสูบ และท้ายเรื่องในตอนที่ท้าวพรหมทัตเชิญนางจันทะเทวีและเจ้าราชบัณฑิต (ก่ำก๋าดำ) กลับเข้าเมือง เเละโปรดให้เจ้าราชบัณฑิตขึ้นครองเมืองพรมทัตสืบต่อไป
ภาพเขียนในช่องนี้มีชุดอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่หลายชุด ประกอบด้วย ชุดอักษรบริเวณด้านบน (กลางภาพ) อ่านได้ความว่า “เมืองอันนี้แม่นเมืองพรหมตั๊ดตี้ป๋าลกะเสนาเมืองสนส่อพญาว่านางจั๋นต๊ะเตวีเล่นจ่าหญ้าม้าว่าอั้นลวดขับนางหนีไปอยู่กับเฒ่าแก่ สองผัวเมียนอกเวียงนางเตวีก็ไปผะสูติลูกออกดําเหมือนก๋าวันนั้นแล แม่นเมืองอันนี้แล” แปลได้ว่า “เมืองนี้คือเมืองพรหมทัต ที่ปาลกะเสนาได้ใส่ความต่อนางจันทะเทวี ให้พระพรหมทัตว่านางเป็นชู้กับคนเลี้ยงม้าจึงเนรเทศนางจันทะเทวีให้ไปอาศัยอยู่กับแม่เฒ่าที่นอกเมือง นางจันทะก็ได้ประสูติราชบุตรออกมามีผิวสีดําเหมือนกา คือเกิดเหตุที่เมืองอันนี้”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านซ้ายบน อ่านได้ความว่า “ป๋าลกะเสนาฮู้ว่าเจ้าก๋าดํามาตั้งอยู่เหนือเวียง มันก็เอาริปนออกไปว่าจักไปฆ่าเจ้าก๋าดําแล” แปลได้ว่า “ปาลกะเสนารู้ว่าเจ้ากาดํามาตั้งกองทัพอยู่ด้านเหนือกําแพงเมืองมันก็เอารี้พลออกไปหมายจะไปฆ่าเจ้ากาดำ”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านบนซ้าย (บริเวณหน้าสุดของกองทหาร) อ่านได้ความว่า “ปาละกะเสนา”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณฝั่งซ้ายภายในเรือน (ด้านหน้า) อ่านได้ความว่า “นางสิงก๋ามาบอกหื้อป้อเมือสนส่อพญาแล” แปลได้ว่า “นางสิงกามาบอกให้พ่อไปหลอกลวงและใส่ความให้เจ้าเมืองฟัง” และชุดอักษรในเรือน อ่านได้ความว่า “ปาละกะเสนา”
ส่วนภาพเขียนบริเวณฝั่งขวาของภาพเขียนช่องนี้ เป็นภาพเขียนภายในปราสาทของพระเจ้าพรหมทัต บริเวณฝั่งขวาล่างสุด มีชุดอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “ป๋าลกะเสนามาสนส่อแล” แปลได้ว่า “ปาละกะเสนาขณะมาหลอกลวงและใส่ความอันเป็นเท็จให้พระเจ้าพรหมทัตฟัง”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านบนในช่องสุดท้ายของปราสาท อ่านได้ความว่า “พญาพรหมตั๊ดฟังกําส่อเสนาแล” แปลได้ว่า “พระเจ้าพรหมทัตฟังคําหลอกลวงและใส่ความของเสนา”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านหน้าปราสาท (อ่านจากซ้ายไปขวา) อ่านได้ความว่า “เจ้าราชปั๋ณฑิตตะ” แปลได้ว่า “เจ้าราชบัณฑิตหรือก่ำก๋าดำ” “นางจั๋นต๊ะเตวี” แปลได้ว่า “นางจันทะเทวี” และ “พญาพรหมตั๊ด” แปลได้ว่า”พระเจ้าพรหมทัต” ในมุมระเบียงหน้าปราสาท อ่านได้ความว่า “เสนาตังแปด” แปลว่า “เสนาทั้ง 8 คน”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านบนเหนือระเบียงปราสาท อ่านได้ความว่า “กะฎุมพี” แปลว่า “ชนชั้นสูงทั้ง 6 คน”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณด้านหน้าเหล่าชนชั้นสูง อ่านได้ความว่า “นั้นหันเล่าก๋าผ่อดู้สู” แปลได้ว่า “ดูนั้น เห็นไหม”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณกลางภาพ (เหนือนางสิงคี) อ่านได้ตวามว่า “นางสิงก๋าฮู้ว่าป้อมันต๋ายเสีย มันก็เกี๊ยดลงมาหนี้แผ่นดินก็ยะเอาไปเสียแล” แปลได้ว่า “นางสิงการู้ว่าพ่อของมันตาย มันก็โกรธลงมาที่นี้ ธรณีก็แยกสูบเอาไปเสีย”
ถัดมาเป็นชุดอักษรบริเวณกลางภาพซ้ายด้านล่าง อ่านได้ความว่า “แผ่นดินสะหลูบกิ๋นนางสิงก๋า” แปลได้ว่า “ธรณีสูบนางสิงกา”
นอกจากนี้ยังมีชุดอักษรล้านนาที่เขียนขึ้นภายหลังด้วยดินสอ อ่านได้ความว่า “ปุก๊ะละผู้ใดมาเหยี้ยมจะไปลูบเนอะ” แปลได้ความว่า “บุคคลผู้ใดมาเที่ยวชมอย่าลูบนะ”
Physical Data