Description
Digital Data
ภาพเขียนบิดาเเละมารดาของเจ้าสุริยคาธและจันทคาธ กำลังร่ำไห้ถึงสองกุมารที่ออกไปจากเมืองจัมปากนคร ครั้นเมื่อสองกุมารนำกระบอกไม้ไผ่ใส่เเก้วเเหวนเงินทองไปแลกกับเเตงโมของบิดามารดาเเล้ว จึงขอลาออกจากเมืองจัมปากนครไป
ครั้นมีชาวบ้านนัมพะได้นำความมาแจ้งแก่บิดามารดาของสองกุมารว่าบุตรชายทั้งสองปลอมตัวมาหา เเละนำเเก้วเเหวนเงินทองใส่ในกระบอกไม้ไผ่ เเต่บัดนี้บุตรชายของตนไปจากเมืองจัมปากนครเเล้ว จึงพากันร่ำไห้อยู่ที่ริมน้ำหน้าบ้านเรือน
ในบริเวณนี้มีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “เจ้าสุริยคราส..เจ้าจันทคราส..หื้อฮู้..แล…” แปลได้ประมาณว่า “เจ้าสุริยคราส..เจ้าจันทคราส..ให้รู้…แล..”
ส่วนมารดาสองกุมารสวมใส่เสื้อตัวหลวมแขนยาว สวมผ้าซิ่นเชียงแสน ซึ่งเป็นผ้าซิ่นแบบพิเศษรูปแบบหนึ่งของเมืองน่าน คือเป็นซิ่นที่มีลายในแนวขวางลำตัว มีรูปแบบโครงสร้างคล้ายกับ “ซิ่นต๋า” ของหญิงชาวไทยวนในล้านนา ส่วนมากจะมีพื้นเป็นสีแดงครั่ง หรือ สีแดงเข้ม และมีเส้นขวางลำตัว วึ่งมีทั้งแถบเส้นเดียวและกลุ่มของเส้นสลับกันไปเป็นสีคราม หรือ สีน้ำเงิน ส่วนมากนิยมสวมใส่ไว้ใช้ไปทำไร่ทำนา ถือเป็นผ้าซิ่นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถพบได้เฉพาะที่เมืองน่านเท่านั้น ส่วนชายในภาพน่าจะเป็นบิดาของเจ้าสุริยคาธและจันทคาธ และชาวบ้านนัมพะที่กำลังขึ้นบันได สวมเครื่องแต่งกายแบบชายชาวพื้นเมืองในแถบนี้ คือ แต่งกายแบบชายไทในล้านนาคือ เปลือยอกนุ่งผ้ามีลวดลาย หรือ ผ้าพื้นสีเรียบผืนเดียวเรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย” หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือ โจงกระเบน เผยให้เห็นลายสักยันต์ รูปสัตว์ป่าหิมพานต์ ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่า ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทลื้อและไทยวนในแถบนี้ เเละไว้ทรงผมทรงมหาดไทย
Physical Data