Description
Digital Data
ภาพเขียนเรื่องราวในกัณฑ์ที่13 ยุชฌกัณฑ์ส่วนหลัง เป็นตอนที่พระนางพรหมจารีได้ยกทัพเพื่อไปตีเมืองอนูปมนคร ซึ่งมีพระญาสุทัสสนจักร อดีตพระสวามีเป็นผู้ครองเมืองอยู่ การยกทัพตีเมืองเมืองอนูปมนครของพระนางพรหมจารี เป็นการล้างแค้นที่พระญาสุทัสสนจักรจับพระนางพรหมจารีลอยแพ ภายหลังจากอภิเษกได้เพียง 7 วัน
ในระหว่างทางที่ยกทัพไปนั้น พระนางพรหมจารีได้พบกับเจ้าจันทคาธ จึงได้แวะกราบวันทาเจ้าจันทคาธ จากนั้นจึงยกทัพไปตีเมืองอนูปมนครจนมีชัยเหนือพระญาสุทัสสนจักร นางจึงรับสั่งให้นำตัวพระญาสุทัสสนจักรมาเป็นข้าบาทรับใช้ โดยให้หาบน้ำมาล้างเท้านางกษัตริย์ผู้ร่วมรบ ให้ขนอุจจาระปัสสาวะของพระนางเทวธิสังกา และมากราบพระบาทของพระนางเสียทุกวัน พระญาสุทัสสนจักรต้องทรงกระทำกิจเหล่านั้นอยู่มาได้ 2-3 วันก็ตรอมใจจนสิ้นพระชนม์ ต่อมาพระนางจึงยกเมืองเมืองอนูปมนคร ให้เจ้าจันทคาธและพระนางเทวธิสังกา ขึ้นครองนับเเต่นั้น
เเละภาพเขียนในกัณฑ์ที่13 ยุชฌกัณฑ์ส่วนหลัง เขียนเริ่มตั้งแต่บริเวณด้านขวาสุดของผนัง เป็นเรื่องราวในตอนที่พระนางพรหมจารีพบกับเจ้าจันทคาธ
ถัดมาบริเวณด้านล่าง เป็นตอนที่พระนางพรหมจารีได้หารือกับเหล่านางกษัตริย์ เพื่อตีเมืองอนูปมนคร ถัดมาเป็นภาพเมืองอนูปมนคร ถูกพระญาธรรมขันตี พระนางพรหมจารี เเละเหล่านางกษัตริย์ตีจนแตกพ่าย กำแพงเมืองพังทลาย เหล่าทหารหนีตายกันอย่างอลหม่าน
ภาพเขียนบริเวณด้านล่างซ้าย (ริมน้ำหน้ากำแพงเมือง) เป็นภาพทหารสองนายพยายามเข็นปืนใหญ่ ส่วนภาพเขียนบริเวณด้านบนนั้นลบเลือนไปเกือบหมด สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นตอนที่ทัพของพระญาธรรมขันตีและพระนางพรหมจารี ได้ตีเข้าไปในเมืองอนูปมนคร จากนั้นพระญาธรรมขันตีและพระนางพรหมจารี น่าจะเข้าไปประทับยังปราสาทของพระญานันทกิตติราช ผู้เป็นพระราชบิดาของพระญาสุทัสสนจักร หลังจากเป็นผู้มีชัยในศึกพระญาธรรมขันตีและและพระนางพรหมจารีจึงสั่งให้ประหารพระญานันทกิตติและพระเจ้าสุทัศนจักร ซึ่งเรื่องราวในตอนนี้อาจมีเนื้อหาที่ความแตกต่างไปจากชาดกก็เป็นไปได้ ดังที่ปรากฎภาพในช่องสุดท้ายด้านบนของฝาผนังด้านทิศใต้ ต่อมาได้โปรดให้เจ้าจันทคาธและพระนางเทวธิสังกา ครองเมืองอนูปมนครนับเเต่นั้น
Physical Data