Description
Digital Data
ภาพเขียนเจ้าคัทธณะกุมารที่กำลังดีดพิณสามสายนำกระดูกของชาวเมือง เเละสัตว์ทั้งหลายมากองรวมกัน แล้วใช้ไม้เท้าต้นชี้ตายปลายชี้เป็นชี้ไปยังกองกระดูกนั้น ด้วยฤทธิ์อันวิเศษของใช้ไม้เท้าต้นชี้ตายปลายชี้ จึงทำให้เจ้าเมือง เหล่าชาวเมือง เเละสัตว์ต่างๆฟื้นคืนจากความตาย
ในบริเวณนี้มีอีกษรล้านนาเขียนกำกับอยู่อ่านได้ความว่า “เจ้าคัทธณะดีดพิณเอาดูกคนออกมาแล” แปลว่า “เจ้าคัทธณะกุมารดีดพิณวิเศษเพื่อให้กระดูกคนตายมารวมกัน”
ในภาพเจ้าคัทธณะกุมารทรงเครื่องแบบอย่างกษัตริย์ของไทย คล้ายกับการแต่งกายในละครนาฏศิลป์ของทางภาคกลาง (กรุงเทพ) คือ สวมพระมาลายอดเกี้ยว หรือ หมวกทรงกลมยอดแหลม สวมกรองศอและอินทรธนูทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลา คือ กางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้ง นุ่งโจงกระเบนทับที่เป็นผ้าที่มีลวดลาย รัดด้วยปั้นเหน่งหรือเข็มขัด มีผ้าห้อยหน้าหรือชายไหวระหว่างชายแครง มีแถบผ้าปลายงอนหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง ปัจจุบันยังหมายถึงกางเกง ในคำราชาศัพท์เรียกว่า “พระสนับเพลา” เเละเหน็บดาบศรีกัญไชยไว้ที่เอว
พิณ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีดแบบหนึ่ง มีหลายชนิดแตกต่างตามท้องที่ โดยทั่วไปมี 3 สาย ในบางท้องถิ่นอาจมี 2 หรือ 4 สาย บรรเลงโดยการดีดด้วยวัสดุที่เป็นแผ่นบาง เช่นไม้ไผ่เหลา ส่วนพิณในภาพในเมืองน่านจะเรียกว่า “ปิน” หรือในล้านนาจะเรียกว่า “ซึง” ซึ่งเป็นที่นิยมกันทั่วไปในหมู่ชาวไทยวนและไทลื้อในเมืองน่าน เเละถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างหนึ่งที่พบได้เฉพาะในเมืองน่านเท่านั้น
Physical Data