Description
Digital Data
ภาพจิตรกรรมบริเวณกลางเสาของวิหารฝั่งขวาหรือฝั่งตะวันตก ของมุขด้านทิศใต้ จิตรกรรมในบริเวณนี้เป็นเหตุการณ์สุดท้ายใน คัทธณะกุมารชาดก หลังจากที่เจ้าคัทธเนตรคอขาดตาย เพราะโดนลมกระดิ่งหลวงที่พญาแถนเสกมาหยุดการสู้รบของทั้งสอง ส่วนเจ้าคัทธจันเป็นผู้มีบุญจึงไม่ตาย พระอินทร์จึงให้ พระวิสสุกรรมลงมารับเจ้าคัทธจันขึ้นไปอยู่ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากนั้นบ้านเมืองทั้งหลายมีความสงบสุขตลอดมา ในบริเวณนี้มีอักษรล้านนากำกับอยู่ด้วยกัน 2 ชุด อักษรล้านนาชุดล่างอ่านยได้ว่า “เจ้าคัทธจันไล่ฟันลมกะดึงหลวงแตกไปนี่แล” แปลได้ว่า “เจ้าคัทธจันไล่ฟันลมกระดิ่งหลวงแตกสลายหายไป” และอักษรล้านนาชุดด้านบน อ่านได้ความว่า “พระญาอินใช้วิสุกมม์ลงมาเอาคัทธจันเมือชั้นดาวดึงสาแล” แปลได้ว่า “พระอินทร์ทรงให้พระวิษณุกรรม มาอัญเชิญเจ้าคัทธจันไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงษ์”
ในภาพด้านล่้างจะเป็นเรื่องราวตอนที่ เจ้าคัทธจันไล่ฟันลมกระดิ่งหลวงแตกสลายไป ด้านบนเป็นเหตุการณ์ที่ พระวิสสุกรรมลงมารับเจ้าคัทธจันขึ้นไปอยู่ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เคริ่องทรงของพระวิสสุกรรมทรงแบบกษัตริย์ของไทยหรือ การแต่งกายแบบในละครนาฏศิลป์ของทางกรุงเทพคือ สวมพระมหามงกุฎหรือพระชฎา มีกรรเจียกคือเครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก และสวมกรองศอและอินทรธนูทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลาคือกางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้ง นุ่งโจงกระเบนทับที่เป็นผ้าที่มีลวดลาย มัดผ้าแถบขนาดยาวที่เอว จึงทำให้เห็นพริ้วไหว ส่วนเจ้าคัทธจันสวมเครื่องทรงแบบกษัตริย์ของไทยหรือ การแต่งกายแบบในละครนาฏศิลป์ของทางกรุงเทพคือ สวมพระมหามงกุฎหรือพระชฎา มีกรรเจียกคือเครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก และสวมกรองศอและอินทรธนูทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลาคือกางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้ง ทำจากผ้าที่มีลวดลาย สวมฉลองพระบาทเชิงงอน
Physical Data