Description
Digital Data
ภาพเขียนจิตรกรรรมส่วนนี้ เขียนภาพเหตุการณ์ที่เกิดบนเรือนของสุริยคาธและจันทคาธ โดยเรื่องราวก่อนหน้านั้น ความว่า “อยู่มาวันหนึ่งสุริยคาธพาน้องชายไปเที่ยวเล่นน้ำ จับปูได้ 4 ตัว เมื่อกลับมาถึงบ้าน จึงได้เผาให้น้องกินตัวหนึ่ง และด้วยความหิวของจันทคาธจึงกินหมดทั้ง 4 ตัว เมื่อบิดาและมารดากลับมาถึงบ้าน แลเห็นซากปูจึงต่อว่าด่าทอสุริยคาธและจันทคาธที่ไม่เก็บปูไว้ให้ตน จึงพากันไล่สุริยคาธและจันทคาธออกไปจากบ้านไป”
บริเวณนี้มีอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่อ่านได้ความว่า “กาน” แปลได้ว่า “ไม้คาน”
ในภาพเขียนภาพเรือนที่พักอาศัยมีลักษณะเป็นเรือนที่นิยมสร้างทั่วไปในล้านนา เรียกว่า “เรือนกาแล” ยกพื้นสูง
บิดาของกุมารทั้งสอง แต่งกายแบบชายทั่วไปในล้านนา มักสวมใส่เวลาไปทำไร่ ทำนา คือเปลือยอกนุ่งผ้าผืนเดียวสีเรียบ เรียกว่า “นุ่งผ้าต้อย” หรือ “เค็ดม่าม” โดยม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือ โจงกระเบน มีผ้าแถบสีขาวพาดไว้ที่บ่า หรือที่คนในล้านนาเรียกว่า “ผ้าเช็ด” เป็นผ้าเอนกประสงค์สำหรับไว้ใช้ในเวลาต่างๆ เช่น ไว้ใช้ซับเหงื่อ หรือไว้หนุนนอนเวลาพักกลางวัน เเละไว้ผมสั้นที่เรียกว่าผมทรง “ลองทรง”
ส่วนมาดาของสองกุมารแต่งกายแบบหญิงทั่วไปในล้านนา เวลาไปทำไร่ ทำสวน คือ เปลือยอกนุ่งซิ่น ไว้ผมยาวมุ่นมวยไว้กลางศีรษะ หาบไม้คานแบกตะกร้าไว้ใส่ของ
ส่วนมาดาของสองกุมารแต่งกายแบบหญิงทั่วไปในล้านนา เวลาไปทำไร่ ทำสวน คือ เปลือยอกนุ่งซิ่น ไว้ผมยาวมุ่นมวยไว้กลางศีรษะ หาบไม้คานแบกตะกร้าไว้ใส่ของ
สุริยคาธและจันทคาธแต่งกายแบบเด็กชายทั่วไปในล้านนายุคนั้น คือไม่สวมเสื้อ สุริยคาธนุ่งผ้าผืนเดียว มีสีเรียบเรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย”หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือ โจงกระเบน ไว้ผมสั้นและไม่สวมรองเท้า ส่วนภาพเขียนจันทคาธนั้นลบเลือนไม่สามารถยืนยันได้ว่าสวมแบบใด
Physical Data