Description
Digital Data
ภาพเขียนบริเวณฝั่งขวา (เหนือประตูเมื่อหันออก) เขียนเรื่องส่วนหลังของกัณฑ์ที่ 7 ติรตนลภนกัณฑ์ ในตอนที่เจ้าจันทคาธเสด็จไปตามทางในป่าเเห่งหนึ่ง ไปพบกับวิทยาธร 2 ตนกำลังต่อสู้กันอยู่บนอากาศ การต่อสู้นั้นมีวิทยาธรตนหนึ่งเป็นฝ่ายพ่ายจึงร่วงลงสู่พื้นปฐพี เห็นกระนั้นเจ้าจันทคาธจึงรีบเข้าไปไต่ถามความว่า
เจ้าจันทคาธ : ดูก่อนบุรุษผู้มีฤทธิ์ เหตุไรท่านจึงนอนเสวยทุกข์อยู่เช่นนี้
วิทยาธร : ดูก่อนพ่อหนุ่มน้อย เรานี้เป็นวิทยาธร พ่ายแพ้วิทยาธรอีกตนหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่ปรปักษ์ต่อสู้กันในอากาศ แล้วตกลงมานอนลำบากอยู่เช่นนี้
เจ้าจันทคาธจึงอาสาเข้าช่วย โดยการนำทิพยโอสถเคี้ยวใส่ปากเเล้วจึงป้อนให้กับวิทยาธรตนนั้น แต่ไม่สามารถแก้ไขความเจ็บปวดของวิทยาธรได้ เนื่องด้วยทิพยโอสถเหลือไม่เพียงพอสำหรับการรักษา ฝ่ายวิทยาธรผู้ได้รับทุกขเวทนาจวนจะดับชีพ จึงกล่าวกับเจ้าจันทคาธว่า “ดูก่อน พ่อหนุ่มน้อยเราจักตายเป็นแน่ ส่วนพระขรรค์แก้วกับเกือกแก้วอันเป็นของวิเศษนี้ เรามอบให้แก่เจ้า” พระขรรค์แก้วเล่มนี้มีคุณานุภาพมาก หากหิวเมื่อใดจุ่มปลายพระขรรค์แก้วกายสิทธิ์นี้ลงในน้ำ หรือน้ำผึ้งแล้วดื่ม ความหิวกระหายก็หายไปเมื่อนั้น อีกทั้งยังมีพละกำลังแข็งแรงขึ้นเท่ากับช้างอันเกิดในตระกูลอุโบสถ 7 เชือก และพระขรรค์เล่มนี้ยังสามารถตัดศิลา เหล็ก ภูเขา ให้ขาดเป็นชิ้นๆได้ หากภูตผีปีศาจ ยักษ์ นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ เทพดา จะทำอันตรายให้แกว่งพระขรรค์เล่มนี้ พวกภูตผีปีศาจนั้นจักพลันหนี ถ้าต้องการเดินบนน้ำ หรือ อากาศ ก็จงสวมเกือกแก้วคู่นี้แล้วเดินเหินได้ แต่อย่าส้องเสพมาตุคาม ถ้าส้องเสพเมื่อใดจักทอนกำลังเมื่อนั้น เมื่อเเจ้งแก่เจ้าจันทคาธเเล้ววิทยาธรก็สิ้นใจในเวลาต่อมา เจ้าจันทคาธจึงรับเอาของวิเศษนั้นเเล้วจัดการเผาศพวิทยาธรบูชาด้วยดอกไม้นาพรรณ ภาพเขียนบริเวณนี้มีภาษาล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “พระยาธรรบกัน” “จันทคาธยาพระสะธร” และ “ เจ้าจันทคาธได้เคิ่งทิบแล้วเหาะ…..ช..และ…”
Physical Data