Description
Digital Data
เขียนพระสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า องค์แรก คือ พระมหาโมคคัลลานะ ในมือถือดอกบัว 4 ดอก ในท่าประนมมือ ซึ่งน่าจะเป็นนัยยะที่แสดงถึง บัวสี่เหล่า ในพระพุทธศาสนา คืออุปมาเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก ตามฐานะที่จะบรรลุนิพพานได้ และไม่ได้ในชาตินั้น ตามที่ปรากฏในโพธิราชกุมารสูตรในพระไตรปิฎกภาษาบาลีและคัมภีร์สุมังคลวิลาสินีว่า เมื่อแรกตรัสรู้ พระพุทธเจ้าได้ทรงพิจารณาว่าพระธรรมที่ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อนสุขุมคัมภีรภาพ ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจ และปฏิบัติได้ ต่อมาได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้งแล้ว ทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ การที่สุมังคลวิลาสินีกล่าวว่าพระพุทธเจ้าทรงเปรียบบุคคลเป็นดอกบัว 4 เหล่านั้น เป็นการประยุกต์จากพุทธพจน์เรื่องบุคคล 4 จำพวกที่ตรัสไว้ในอุคฆฏิตัญญุสูตร อังคุตตรนิกาย ปุคคลวรรคที่ 4 พระมหาโมคคัลลานะบรรลุเป็นพระอรหันต์อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก
ถัดไปเป็นพระสาวกองค์สุดท้าย คือ พระสังกัจจายน์ หรือ “พระสังกระจาย” อิริบถยกพระหัถต์เบื้องขวาเท้าที่พระหนุ (คาง) ลักษณะคล้ายอ่านธรรมบนปั๊บสา บนปั๊บสามีอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า โอกาสะ สัมมะซะนิ” คือ คำขึ้นต้นบทสวดบูชาบทหนึ่ง พระสังกัจจายน์บรรลุเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระอสีติมหาสาวกของพระโคตมพุทธเจ้า ทรงได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร
ในภาพจะสังเกตเห็นพานใบใหญ่ตั้งอยู่ ด้านบนมีปั๊บสาวางอยู่ พานดังกล่าวเรียกว่า “ขัน” ในภาษาล้านนา เป็นเครื่องเขินชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ไผ่ สานขึ้นรูป ลงยาด้วยยางรักเเละชาด
Physical Data