Description
Digital Data
ภาพเขียนบริเวณมุมขวาเหนือประตูทางเข้าฝั่งตะวันออก เขียนเล่าเรื่องราวภายหลังจากเจ้าคัทธณะกุมารช่วยเหลือกองสีออกจากเสาของท้องพระโรง จึงได่ไต่ถามถึงเรื่องราวอันเกิดแกเมือง นางจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดแก่เจ้าคัทธณะกุมารฟัง ในบริเวณนี้มีอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “เจ้าคัทธณะถามนางคำสิงว่า คนเมิงนี้ไปไหนเสี้ยงจาว่าอั้น นางขานตอบว่ารุ้งมากินเสียเสี้ยงขาบาดแล้ว” แปลได้ว่า “เจ้าคัทธณะกุมารถามนางคำสิงว่า คนเมืองนี้ไปไหนกันหมด นางคำสิงตอบว่า นกรุ้ง นกแร้ง และหงส์ทองจำนวนมาก บินลงมาฆ่าประชาชนชาวเมืองชวาทวดีทั้งหมด”
ในภาพเจ้าคัทธณะกุมารทรงเครื่องเเต่งกายอย่างกษัตริย์ของไทย คล้ายกับการแต่งกายในละครนาฏศิลป์ของทางภาคกลาง (กรุงเทพ) คือ สวมพระมาลายอดเกี้ยว หรือ หมวกทรงกลมยอดแหลม สวมกรองศอและอินทรธนูทับบนเสื้อแขนยาว มีทับทรวงและสายสังวาลสะพายแล่ง สวมพาหุรัดที่ต้นแขน นุ่งสนับเพลา คือ กางเกงขายาวประมาณครึ่งแข้ง นุ่งโจงกระเบนทับทำมาจากผ้าที่มีลวดลาย รัดด้วยปั้นเหน่งหรือเข็มขัด มีผ้าห้อยหน้าหรือชายไหวระหว่างชายแครง มีแถบผ้าปลายงอนหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง ปัจจุบันยังหมายถึงกางเกง ในคำราชาศัพท์เรียกว่า “พระสนับเพลา”
ส่วนนางคำสิงสวมเครื่องแต่งกายคล้ายเจ้านายในเมืองน่านและในล้านนาในสมัยนั้น คือ ด้านบนเปลือยอก นำมาแถบมาห่มแบบสไบเรียกว่า “ห่มผ้าสะหว้ายแล่ง” ในภาษาล้านนา นุ่ง “ซิ่นตีนจกคำ” หรือ ซิ่นตีนจกทองคำ เป็นซิ่นที่นิยมสวมใส่ในหมู่เจ้านายฝ่ายหญิงในล้านนา แต่ “ซิ่นตีนจกคำ” ที่นางกองสีใส่นั้นเป็นซิ่นตีนจกคำ ที่มีรูปแบบเฉพาะของเมืองน่าน คือท้องซิ่นจะมีแนวขวางลำตัวที่ดูแล้วคล้ายกับซิ่นป้อง มีการตกแต่งด้วยกรรมวิธีการทอแบบต่างๆให้เกิดลวดลายเพิ่มในแนวเส้นขวางลำตัว ในภาพน่าจะเป็นการตกแต่งการทอด้วยกรรมวิธี “การยก” ด้วยดิ้นคำ หรือ ดิ้นทองคำ ส่วนด้านล่างต่อด้วย “ตีนจกคำ” คือ ตีนซิ่นที่ทอด้วยกรรมวิธีการจกที่มีการสอดแทรกไหมทองคำ หรือ ไหมเงินลงไปเพื่อให้ดูมีค่ามากยิ่งขึ้น “ตีนจก” นี้เป็นตีนซิ่นที่นิยมกันในหญิงชาวไทยวนในล้านนา เเละยังมีโครงสร้างเดียวกับตีนจกของหญิงชาวไทยวนในล้านนา แต่ตีนจกของเมืองน่านมีการใส่ลวดลายเฉพาะของตนลงไป ทำให้เกิดเป็นรูปแบบเฉพาะที่สามารถพบได้เฉพาะในเมืองน่านเท่านั้น ส่วนบนศรีษะไว้ผมยาวทำผมมุ่นมวยเรียกว่าเกล้าแบบ “วิดว้อง” ไว้กลางศีรษะ ปักปิ่นทองคำ หรือ “ปิ่นคำ” ในภาษาล้านนา มัดมวยด้วยสร้อยคำ หรือ สร้อยทอง เจาะหูใส่ “ลานหู” มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆคล้ายแผ่นใบลาน ที่ทำจากแผ่นเงินหรือทองคำ นำมาม้วนแล้วใส่เข้าไป สวมกำไลทองคำทั้งที่ข้อมือและต้นแขน
ส่วนชายเกวียนร้อยเล่มแต่งกายคล้ายชาวไทยวนและไทลื้อในล้านนาในยุคนั้น ซึ่งรับอิทธิพลจากทางภาคกลาง (กรุงเทพ) คือ สวมเสื้อแขนยาวคอกลมทำจากผ้าสีเรียบ มีการตกแต่งที่สาปเสื้อด้านหน้าและที่ต้นแขน สวมหมวกทรงกลมที่นิยมกันในหมู่ชายชาวตะวันตกในยุคนั้น
Physical Data