Description
Digital Data
จิตรกรรมฝาผนังด้านทิศตะวันตกของมุขทิศใต้ จิตรกรรมฝาผนังด้านนี้ลบเลือนไปมากพอสมควร แต่ยังพอที่เหลือรายละเอียดให้ทราบถึงเรื่องราวได้ จิตรกรรมด้านนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ต่อมาจาก จิตรกรรมบริเวณด้านข้างหน้าต่างฝั่งตะวันออกของผนังสกัดมุขทิศใต้ เป็นเรื่องราวตอนการเดินทางของเจ้าคัทธณะกุมาร ที่มีพระดำริจะเสด็จหัวเมืองเพื่อเยี่ยมเยียนพญาร้อยเอ็ดและทรงดำรัส สั่งสอนพระธรรมต่างๆ จนเป็นที่ชื่นชมแก่พญาทั้งหลาย หลังจากทรงแสดงธรรมแล้วจึงได้ ออกเดินทางสู่ป่าหิมพานต์เพื่อตามหารอยเท้าช้างผู้เป็นบิดา ซึ่งเรื่องราวในส่วนต่อจากนี้ ได้ไปเล่าเรื่องต่อที่ฝาผนังฝั่งด้านใต้ของมุขทิศตะวันตก
ในจิตรกรรมฝาผนังด้านทิศตะวันตกของมุขทิศใต้ เป็นการเขียนเรื่องราวที่เจ้าคัทธณะกุมารได้เดินทางไปตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อสั่งสอนพระธรรมต่างๆ อีกทั้งได้พานพบเจอผีร้ายต่างๆ ในภาพฝาผนังด้านนี้น่าจะเริ่มเรื่องราวที่ด้านซ้ายด้านล่างข้างหน้าต่าง แต่เนื่องจากภาพเลือนลางมาก อีกทั้งยังไม่เหลือตัวอักษรล้านนากำกับ จึงได้แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเจ้าคัทธณะกุมาร ทรงสนทนาธรรมกับเหล่าพระฤาษีผู้ทรงศีล ภายในอาศรมของพระฤาษี ด้านข้างหน้าต่างน่าจะเป็นตอนเจ้าคัทธณะกุมารทรงทอดพระเนตร ผู้ทรงศีลทรมานตนเพื่อให้บรรลุธรรม ด้านบนเหนือหน้าต่างฝั่งซ้าย มีอักษรล้านนากำกับอยู่ ซ้ายสุดอ่านได้ความว่า “พระยาเวดสุวัน” แปลว่า “ท้าวเวชสุวรรณ” อักษรชุดกลางอ่านได้ความว่า “ผีเสิดบก” และขวาสุดอ่านได้ความว่า “ผีเสิดน้ำ” แปลทั้งสองคำว่า เป็นผีชนิดหนึ่งที่คนในล้านนาเชื่อว่า มีอยู่บนบกและในน้ำ ในภาพบริเวณนี้เป็นเหตุการณ์ที่ท้าวเวชสุวรรณ ขณะกำลังจุดบอกไฟ หรือบั้งไฟ และด้านหลังมีผีเสือบกและผีเสือน้ำ
ส่วนเหนือและข้างหน้าต่างฝั่งขวา มีอักษรล้านนากำกับอยู่ ชุดอักษรด้านบนอ่านได้ความว่า “เจ้าเมืองตักกสิราใช้คนมาเชิญเจ้าคัทธณะขึ้นไปแล” แปลได้ว่า “เจ้าเมืองตักศิลาให้คนมาเชิญเจ้าคะัธณะกุมารไปยังเมืองตักศิลา” ด้านล่างมีข้อความไม่ครบ อ่านได้ความว่า “…ต่อออกงาช้างเจ้าคัทธณะ…ข้าได้ถอด….เมืองตักกะศิลาพาย..ลง…” เนื่องจากข้อความขาดหายไปมากพอสมควร จึงมิสามารถแปลได้ ในภาพจิตรกรรมบริเวณนี้เหลือจิตรกรรมให้เห็น ได้เฉพาะด้านบน เป็นเหตุการณ์ตอนที่เจ้าพนักงานจากเมืองตักศิลา มาทูลเชิญเจ้าคัทธณะกุมารให้เสด็จไปยังเมืองตักศิลา ส่วนจิตรกรรมด้านล่างนั้น ลบเลือนไปเกือบหมดจนมิสามารถเห็นรายละเอียดใดๆ
Physical Data