Description
Digital Data
ภาพเขียนเหล่าพนักงานวงมโหรีที่กำลังบรรเลงเฉลิมฉลองการขึ้นครองเมืองของเจ้าคัทธนกุมาร ที่หน้าปราสาทเมืองจำปานคร ในบริเวณนี้มีชุดอักษรล้านนาเขียนกำกับอยู่ อ่านได้ความว่า “พวกปี่พาดขุนคอนทั้งมวล” แปลได้ว่า “คณะเหล่านักดนตรีที่เล่นปี่พาทย์และเหล่านักละครทั้งหลาย”
ในภาพจะเห็นว่ามีเครื่องดนตรีที่ผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีไทยภาคกลาง และเครื่องดนตรีของทางล้านนาและเมืองน่าน ประกอบเป็นวงดนตรีมโหรี เช่น พนักงานสีซอด้วง เจ้าพนักงานดีดพิณ หรือ ปิน ซึ่งเป็นพิณ ที่นิยมใช้กันทั่วไปในชาวไทยวนและไทลื้อในเมืองน่าน ซึ่งมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถพบได้เฉพาะในเมืองน่านเท่านั้น ส่วนชายด้านหลังเป่าขลุ่ย คนขวาเป่าปี่แน คือเครื่องดนตรีพื้นบ้านของล้านนา ถัดไปเป็นคนล่างซ้ายตีกลองทัด และคนล่างขวาตีกลองสองหน้า กลางภาพเป็นคนตีฆ้องวง ถัดไปทางขวาเป็นคนตีฉิ่ง ถัดลงมาตีระนาด เป็นต้น
นักดนตรีในภาพแต่งกายแบบชาวไทยวนและไทลื้อในล้านนาในยุคนั้น ซึ่งได้รับอิทธิพลการแต่งกายรูปแบบจากทางภาคกลาง (กรุงเทพ) คือ ใส่เสื้อแขนยาวคอกลมทำจากผ้าที่เป็นผ้าพื้นเรียบ นุ่งผ้าที่มีลวดลายผืนเดียวที่เรียกว่านุ่งแบบ “นุ่งผ้าต้อย” หรือ “เค็ดม่าม” โดยจะม้วนผ้าเป็นเกลียวสอดระหว่างขาเป็นการนุ่งแบบเดียวกับการถกเขมร หรือ โจงกระเบน มัดเอวด้วยผ้าพื้นสีแดง เผยให้เห็นลายสักยันต์ตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหัวเข่า อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชายชาวไทยวนและไทลื้อในแถบนี้ นอกจากนี้นักดนตรีบางคนยังแต่งกายดูคล้ายกับการเเต่งกายนิยมกันในหมู่ชายชาวกรุงเทพในยุคนั้น คือใส่เสื้อคอตั้งแขนยาว ทำจากผ้าพื้นที่มีลวดลายและผ้าพื้นสีเรียบ มีผ้าคาดเอว นุ่งโจงกระเบนที่เป็นผ้าพื้นที่มีลวดลายและผ้าพื้นสีเรียบ ซึ่งน่าจะเป็นผ้าที่มาจากต่างประเทศ ไว้ผมทรงมหาดไทย ลักษณะคือ ไว้ผมกลางศีรษะและด้านข้างโกนผมบริเวณโดยรอบ คล้ายกับการนำกะลามาครอบหัว แต่ไม่ได้แสกกลางแบบทางภาคกลางของไทย ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากทางกรุงเทพ
Physical Data